มาดูวิธีรักษา 'สิวยีสต์' ผดผื่นแดง เม็ดเล็กๆ ขึ้นเป็นแพ

"สิวยีสต์" หรือสิวเทียม บางครั้งก็เรียกว่าสิวผด เป็นสิวที่เหมือนสิวแต่ไม่ใช่สิวซะทีเดียว มีคนเป็นสิว
ยีสต์แบบนี้เยอะเหมือนกัน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสิวที่ตัวเองเป็นอยู่มันคือสิวยีสต์ เพราะมันดูไม่ค่อยแตกต่างจากสิวทั่วๆไปสักเท่าไร

    วันนี้ Acnedefend มีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเจ้าสิวยีสต์ตัวนี้มาเล่าสู่กันฟัง มาพร้อมกับวิธีรักษาสิวเบื้องต้นให้กับคนที่กำลังเป็นอยู่ใช้แก้ไขปัญหาสิวที่เกิดขึ้นบนหน้าอย่างได้ผล ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับสิวยีสต์กันก่อนว่ามันคืออะไร? มีที่มาที่ไปอย่างไร? ตามมาดูกันเลยครับ


สิวยีสต์ คือ อะไร ?


สิวยีสต์ ความหมายก็ตรงไปตรงมา คือ สิวที่เกิดมาจากเชื้อยีสต์ซึ่งจัดเป็นเชื้อราชนิดหนึ่ง ซึ่งความจริงแล้วเชื้อยีสต์ที่ทำให้เกิดสิวหรือตุ่มที่คล้ายๆสิวนั้นก็มีหลายตัว แต่ตัวที่ดูจะเป็นปัญหาและโดดเด่นมากที่สุดคือยีสต์ที่มีชื่อว่า Pityrosporum ovale ที่จริงๆแล้วมันก็เป็นเชื้อยีสต์ที่มีอยู่ตามผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าร่างกายของแต่ละคนอาจตอบสนองต่อเชื้อที่ว่าแตกต่างกัน และ เชื้อยีสต์ Pityrosporum ovale นี้ก็ยังเป็นต้นเหตุของการเกิดรังแคบนหนังศรีษะของเราด้วย และนี่เองที่เป็นสาเหตุที่บางคนที่เป็นรังแคแล้วชอบเป็นสิวผดเม็ดเล็กๆขึ้นที่บริเวณหน้าผาก ไรผม หรือบริเวณที่ต้องสัมผัสกับเส้นผม มันเกิดจากเชื้อยีสต์อย่างที่บอกไว้ แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนหรอกนะ

ลักษณะของสิวยีสต์


ถึงแม้ว่าสิวยีสต์จะมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับสิวผดทั่วๆไป แต่ก็ยังพอมีวิธีสังเกตที่อาจทำให้รู้ว่า เราเป็นสิวยีสต์เข้าให้แล้ว

  • สิวจะเป็นตุ่มเล็กๆ แดงๆ ชอบอยู่เรียงกันเป็นกระจุก หรือเป็นแพ
  • บางครั้งอาจเป็นสิวหนองเกิดขึ้นที่ตุ่มเม็ดเล็กๆด้วย
  • ชอบขึ้นบริเวณหน้าผาก จมูก คาง หรือบริเวณที่มันมากๆอย่าง T-zone
  • ชอบอากาศร้อน ชื้น เหมือนเวลาที่เราต้องไปเจอแดดจัดๆแล้วเหงื่อออกมากๆ สิวยีสต์จะชอบและเห่อขึ้นมาเต็มไปหมด
  • บางครั้งเกิดจากการที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน เช่น อยู่ดีๆก็ร้อนจัด หรือหนาวจัด อย่างคนที่อยู่ต่างประเทศแล้วเพิ่งไปอยู่ใหม่ๆจะชอบเจอปัญหาแบบนี้
  • ไม่ชอบให้ทำรุนแรงบนหน้า ยิ่งขัดถูหน้าแรงๆ หรือไปรบกวนหน้ามากๆ สิวยีสต์จะยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม เห่อไปกันใหญ่
  • ถ้าเจาะหนองที่สิวแล้วเอาไปตรวจ จะพบเชื่อยีสต์มากกมายอยู่ในนั้น

    เป็นยังไงบ้างครับ ดูจากลักษณะของสิวยีต์ที่ว่า แล้วลองเอามาเปรียบเทียบกับสิวที่อยู่บนหน้าของเรา ใกล้เคียงกันบ้างมั๊ยครับ ถ้าใก้ลเคียงหรือบอกว่ามันใช่เลยเป็นครบทุกข้อ แสดงว่าเราอาจเป็นสิวยีสต์เข้าแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาดูวิธีรักษาสิวยีสต์เบื้องต้นกันดีกว่า ว่าต้องรักษาอย่างไรเพื่อให้ปัญหาสิวทุเลาลงหรือหายไปได้ในที่สุด


วิธีรักษาสิวยีสต์เบื้องต้น




ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน


เนื่องจากสิวยีสต์เป็นสิวที่ไม่นิยมความรุนแรง ไม่ชอบให้ใครมาทำร้าย หรือทารุณกรรมกับตัวเองมาก ดังนั้นนอกจากที่เราไม่ควรล้างหน้าแรงๆแล้ว โฟมล้างหน้าหรือสบู่ล้างหน้าที่เราใช้ก็ควรเป็นแบบที่อ่อนโยน เวลาล้างไม่ทำให้หน้าแห้งตึงมากเกินไป ถ้าถามผมว่ามีโฟมล้างหน้าแนะนำหรือไม่ ผมก็ขอตอบว่ามี บอกเอาไว้สัก 4 ตัวเผื่อเลือกก็แล้วกัน Acne-Aid gentle cleanser(ขวดสีฟ้า) ราคา 155 บาท , Cetaphil Gentle Skin Cleanser ราคา 185 บาท , Physiogel cleanser ราคา 115 บาท , Smooth E babyface gel ราคา 180 บาท ชอบตัวไหนเลือกได้ตามความชอบเลย แต่ราคาก็อาจบวกลบกว่านี้ครับแล้วแต่ร้านที่เราไปซื้อ


ทามอยเจอไรเซอร์ ลดความแห้งของผิว


บางครั้งสิวยีสต์อาจเกิดจากการที่ผิวหน้าของเราแห้งตึง ไม่มีความชุ่มชื้น ทำให้เกิดการระเคยเคืองเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นเราควรหามอยเจอไรเซอร์ดีดีที่เหมาะกับสภาพผิวของเรามาทา เพื่อลดปัญหาที่ว่าไว้ ถ้าเป็นคนที่ผิวแห้งก็ต้องเลือกมอยเจอไรเซอร์ที่มีน้ำมันเข้ามาผสมสักหน่อย เพื่อช่วยให้สามารถกักเก็บน้ำในผิวได้ดียิ่งขึ้น แต่สำหรับคนที่หน้ามัน ผิวมันง่าย ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์แบบ oil free คือไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม แต่จะมีสารที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นแทน เช่น propylene glycol, glycerin, sodium PCA, hyaluronic acid, colloidal oatmeal ถ้าสนใจวิธีการเลือกมอยเจอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวแล้วล่ะก็ ติดตามอ่านได้ที่บทความนี้ครับ เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างไร ให้ตรงใจคนเป็นสิว


เจลว่านหางจระเข้ก็ช่วยได้นะ


เจลว่างหางจระเข้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการทาเพื่อช่วยลดความแห้งตึงของผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นกักเก็บน้ำในผิวได้ดี แถมเจลว่างหางจระเข้นั้นยังช่วยลดอาการอักเสบของผิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จะใช้ทาก่อนนอน หรือจะทาเช้า-เย็นก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก หากใครอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเจลว่านหางจระเข้โดยละเอียดและยังไม่เคยอ่านบทความนี้ทมาก่อน อ่านได้ที่นี่เลยครับ มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้า หลังทายารักษาสิวกันกับ "เจลว่านหางจระเข้" (Aloe vera gel) หน้าแดง หน้าลอก ไม่ควรพลาด



ทายาลดสิวยีสต์บ้างก็ได้นะ


สำหรับคนที่เป็นสิวยีสต์เยอะๆ ขึ้นเห่อเต็มหน้าไปหมด การทายาเพื่อลดสิวก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากสิวยีสต์จัดเป็นสิวที่เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง ดังนั้นยาที่ใช้รักษาก็จะเป็นยาทาที่ใช้กำจัดเชื้อรานั่นเอง ยาทาที่แนะนำก็มี ketoconazole, ครีม ciclopiroxolamine, ครีม econazole, แชมพู selenium sulfide ตัวที่เป็นครีมก็ใช้ทาตรงผิวที่เป็นสิว ส่วนตัวแชมพูก็ใช้สระผมเพื่อฆ่าเชื้อรา ลดรังแค ซึ่งมีส่วนช่วยลดการเกิดสิวยีสต์ด้วย ลองเอาไปปรับใช้กันดูครับ


ยาทารักษาสิวทั่วๆไป บางครั้งอาจใช้ไม่ได้กับสิวยีสต์


บางคนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสิวยีสต์ คิดว่าเป็นสิวแบบทั่วๆไป ก็เลยไปหายาทารักษาสิวที่นิยมใช้กัน เช่น BP , Retin-A , Differin มาทาโดยคิดว่ามันจะช่วยให้สิวลดน้อยลงได้ แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม คือยิ่งทาสิวก็ยิ่งเห่อเยอะขึ้นไปอีก ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า ตัวยาที่อยู่ในครีมเหล่านี้มันไม่สามารถไปฆ่าเชื้อยีสต์ที่ทำให้เกิดสิวของเราได้ เพราะมันไม่ได้ทำมาเพื่อสิ่งนี้ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว แล้วการทายารักษาสิวเหล่านี้จะมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง ลอก ระคายเคือง ซึ่งจะยิ่งทำให้สิวยีสต์ลุกลามมากขึ้น ซึ่งก็แล้วแต่คน บางคนอาจทายาพวก BP แล้วหาย แต่สำหรับคนที่ทาแล้วไม่หายกลับเป็นเพิ่มขึ้นก็อาจงดทายาเหล่านี้ไปก่อน แล้วไปทายากำจัดเชื้อราที่บอกไว้ข้างบนจะช่วยให้สิวหายได้ดีและตรงจุดมากกว่า

ยาเม็ด Ketoconazole รักษาสิวยีสต์

ถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็ต้องกินยาบ้าง


หากสิวยีสต์บนหน้าของเรามันเยอะจนรับไม่ไหวแล้ว เราก็อาจจำเป็นต้องเพิ่มการรักษาจากภายในร่างกายเข้าไปด้วย เพื่อช่วยฆ่าเชื้อราจากข้างใน วิธีทำก็ให้เราไปหาซื้อยากินเพื่อกำจัดเชื้อรา ยาที่นิยมกินก็มี ketoconazole, itraconazole, fluconazole เป็นยาที่ใช้ฆ่าเชื้อรา เชื้อยีสต์ได้ ซึ่งจริงๆยาพวกนี้เป็นยาที่ใช้ฆ่าเชื้อราที่เกิดบนผิวหนังทั่วๆไป แต่คนเป็นสิวยีต์ก็สามารถกินได้เช่นกัน แต่การกินยาพวกนี้ก็ต้องระวังผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นด้วย เช่น อาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้ อยากอาเจียน ปวดหัว เวียนหัว มึนงง และยาเหล่านี้ไม่เหมาะกับคนที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคนที่เป็นโรคตับ เพราะฤทธิ์ยาอาจส่งผลต่อเด็กในท้อง หรือทำให้อาการโรคที่เป็นอยู่หนักกว่าเดิมได้ ดังนั้นก่อนจะหาซื้อมากินนั้นต้องคิดให้รอบคอบซะก่อน


    ก็จบกันไปกับวิธีการรักษาสิวยีสต์เบื้องต้น หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเป็นอยู่ได้บ้างนะครับ นอกจากวิธีรักษาที่ได้บอกไว้ เราควรจะดูแลรักษาตัวจากภายในด้วย เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ งดกินอาหารที่เป็นแป้งเยอะๆ หรือขนมปังเบเกอรี่ และที่สำคัญต้องงดกิจกรรมที่ทำให้หน้าระคายเคืองทั้งหมดออกไป เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดการเกิดสิวยีสต์ที่ว่าได้เยอะแล้ว ยังไงก็ขอให้คนที่กำลังเป็นสิวยีสต์อยู่หายวันหายคืน กลับมาหน้าใสไร้สิวกันอย่างรวดเร็วAcnedefend ขอเป็นกำลังใจให้ครับ ^^



ที่มา : http://acnedefend.blogspot.com/2014/01/yeast-acne.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

ผู้ชมหน้านี้ :

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น