ค่านิยมเด็กไทยวันนี้ แก้ผ้าเรียกไลค์ เสพยาโชว์เก๋า

ในยุคของโซเชียลเน็ตเวอร์กครองโลก เราได้รับประโยชน์มหาศาลจากเทคโนโลยีนี้ ข้อมูล
ข่าวสารที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ช่วยให้เราได้รับความรู้ใหม่ข่าวสารที่นำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย จนถึงขั้นพัฒนาประเทศและสังคมได้เลยทีเดียว


แต่อย่างไรก็ตาม ในมุมมืดๆ ที่ไม่เล็กของสังคม โซเชียลเน็ตเวอร์ก ยังถูกกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มใช้เป็นเครื่องมือให้การหาผลประโยชน์บนความพินาศของชีวิตคน โดยเฉพาะเรื่องของยาเสพติด ซึ่งถือได้ว่าเป็นอาชกรรมร้ายแรงเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศในเรื่องทรัพยากรมนุษย์มากที่สุด และเรื่องของทรัพยากรมนุษย์นี่เองก็คือต้นทุนที่สูงที่สุดของทรัพยากรที่เรามี
ยาเสพติด ไม่ใช่สินค้าที่มีอุปสงค์อุปทานจากความบังเอิญ แต่เกิดจากการวางแผนการตลาดที่แยบยลของกลุ่มขบวนการ ให้เกิดการแพร่ระบาดมากที่สุด เพื่อที่จะได้ขายสินค้าได้มากที่สุด และกลุ่มเป้าหมายที่เจาะง่ายที่สุดคือ กลุ่มวัยรุ่นนั่นเอง
กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ได้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อสร้างภาพลักษณ์และวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้ ยกตัวอย่างเช่น ยาไอซ์ ถือว่าเป็นสินค้าราคาแพง ในระยะแรกจึงนิยมเสพกันในกลุ่มของคนมีฐานะดี และพยาม



การใช้ผู้หญิงสวย ที่มีภาพลักษณ์เซ็กซี่ มากรุยทางการตลาดยาเสพติด นั้นมีมานานแล้ว วิธีนี้ดัดแปลงมาจากวิธีการเชียร์เหล้าเชียร์เบียร์ โดยจะใช้วิธีการจัดปาร์ตี้โดยมีหญิงสาวหน้าตาดีมาร่วมงาน ทั้งจัดหามา หรือเชิญชวนมา เพื่อให้บรรดาหนุ่มๆ ได้สนใจและสนุกสนานที่จะมาร่วมงานปาร์ตี้ ซึ่งวิธีการนี้ก็ช่วยให้สามารถเพิ่มจำนวนลูกค้ารายใหม่ และเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี
พฤติกรรมลักษณะนี้ จึงถูกเลียนแบบ ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับการค้าก็ตามที ผู้หญิงที่ต้องการได้รับความสนใจ แต่ไม่มีวิธีการแสดงออกอย่างอื่น เธอจึงทำได้เพียงอวดเต้า โชว์สรีระที่ควรสงวนไว้ไม่เปิดเผย จึงเป็นที่มาของกระแสค่านิยมที่เรียกว่า แก้ผ้าเรียกไลค์




นอกจากนี้ยังมีการใช้ผู้หญิงสวย เซ็กซี่ เปิดเพจให้ผู้คนติดตาม เพื่อสร้างกระแส แต่ก็แอบแฝงด้วยการเปิดตัวเล็กๆ แบบคลุมเครือ ว่าเจ้าของเพจ น่าจะมีสินค้าดังกล่าวจำหน่าย หรือเป็นหญิงที่ชอบปาร์ตี้ โดยมีการตั้งประเด็นสนทนาให้ผู้คนเห็นว่า ยาเสพติดเป็นเรื่องเท่ เป็นเรื่องที่น่าทดลอง เป็นของมีระดับ เพื่อค่อยๆสร้างค่านิยมใหม่ผ่านทางโลกออนไลน์ อาจจะมีการพูดคุยหลังไมค์ นัดหมาย เชิญชวน ไปเที่ยวด้วยกัน อันจะนำไปสู่สังคมที่เป็นแหล่งปล่อยยา ในที่สุด



ยาเสพติดอีกประเภทที่มีการเผยแพร่มากมายในเฟสบุ๊ก คือกัญชา เป็นยาเสพติดที่อยู่คู่สังคมไทยมาช้านาน ถือว่าเป็นยาเสพติดที่อันตรายน้อยกว่ายาเสพติดสังเคราะห์อื่นๆ เราไม่ปฏิเสธว่า กัญชามีประโยชน์หากใช้ในทางการแพทย์ จึงมีบางประเทศอนุญาติให้ขายกัญชา(เพื่อใช้ในการรักษาโรค)อย่างถูกกฏหมาย (ยาเสพติดแทบทุกชนิด ล้วนถูกสร้างมาเพื่อใช้ในการแพทย์ เช่นฝิ่น เฮโรอีน แอมเฟตามีน)

กัญชาถูกสร้างภาพและวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้ว่าเป็นสินค้าที่เป็นมิตร ผู้มีอารมณ์ศิลปิน มีนักแต่งเพลงใต้ดินชื่อดังหลายคน ได้ใส่เนื้อหาเกี่ยวกับการชื่นชมยาเสพติดประเภทกัญชาและไอซ์ไว้ในบทเพลง บางคนอ้างว่าใช้เพื่อการสร้างสรรค์ผลงานเพลง สร้างงานศิลปะ ซึ่งเป็นการช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับยาเสพติดมากขึ้น กัญชาสายพันธุ์ไทย ถูกนำไปลักลอบปลูกในอเมริกา และส่งกลับมาขายในประเทศไทย วางตำแหน่งเป็นกัญชาเกรดเอ ให้บรรดาไฮโซสูบ เส้นทางนี้เกิดจากกลุ่มคนไทยที่ไปอยู่ในอเมริกา หรือพวกบรรดาลูกคนรวยที่ไปเรียนใช้ชีวิตต่างประเทศ(แต่ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมเสื่อมๆ) นำเอาพฤติกรรมเลียนแบบ กลับมาเผยแพร่ให้เห็นว่า เท่ ไลฟ์สไตล์เด็กนอก วัยรุ่นที่ชอบอะไรที่เปลือกๆ ก็เอาอย่าง โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้ชาย พบว่ามีการพยามสร้างความสนใจให้กับตนเองโดยการโชว์เก๋า เสพยา ทดลองยาเสพติด เพราะกลัวว่าจะเข้ากลุ่มเพื่อนไม่ได้ กลัวว่าจะเชย

กัญชาถึงแม้ว่าจะไม่อันตรายเท่ายาเสพติดสังเคราะห์ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่จะชักนำไปสู่การเสพยาเสพติดอันตรายร้ายแรงชนิดอื่น ตรงนี้คือประเด็นที่เราควรกังวล


ในขณะที่วงจรอุบาทว์ของยาเสพติดเอง ได้ถูกออกแบบให้สร้างเครือข่ายผลประโยชน์ ให้กับผู้เกี่ยวข้อง จึงสามารถขยายองค์กรมืดให้แทรกซึมไปทั่วทุกอนูของสังคมไทยได้ ยกตัวอย่างในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐ เริ่มตั้งแต่ด่านตรวจ มีการสมรู้ร่วมคิดเรียกรับผลประโยชน์ ปล่อยให้มีการเล็ดลอดของยาเสพติดเข้ามาในประเทศได้ มีการกำหนดเส้นทางลำเลียงยาเสพติดภายในประเทศ โดยมีเจ้าหน้ารัฐประจำเส้นทางคอยอำนวยความสะดวกให้เกิดการเล็ดลอดได้ ในกระบวนการตรวจจับ มีลักษณะของโจรปล้นโจร คือเจ้าหน้าที่จับกุมได้ ทำการยึดของกลาง และปล่อยตัวผู้ขนยาไป จากนั้นกลุ่มขบวนการของเจ้าหน้าที่เก็บของกลางไว้ขายเอง


ในส่วนของสถานบริการ มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปล่อยปละเลยให้เกิดการมั่วสุมซื้อขาย เสพยาในสถานบันเทิงได้


วัยรุ่นไทยได้ค่อยๆซึมซับค่านิยมในเรื่องของยาเสพติดจากด้านๆต่างๆ ทั้งทางสื่อ และสภาพแวดล้อมในชุมชน เพื่อนฝูง จากวัยเด็กเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่ จนเห็นเป็นเรื่องโก้เก๋ ทั้งที่เป็นสิ่งผิดกฏหมาย เมื่อมีการตั้งประเด็นสนทนาในเฟสบุ๊ก บรรดาวัยรุ่นทั้งหลายต่างก็พยามแสดงความรอบรู้เกี่ยวกับยาเสพติด จำส่วนผสมและกรรมวิธีผลิต เสพ แม่นยำทุกตัว แถมต่างคนต่างมีสูตรเฉพาะของตนเอง ต่างออกมาโชว์ภูมิกันถ้วนหน้า นี่ถ้าพวกเขาเหล่านั้นสนใจความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ไอที หรือความรู้แขนงอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ประเทศชาติคงจะดีไม่น้อยเลย




ผู้ค้ายาเสพติด ต่างมีวิธีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงสารพัด เพื่อขยายอาณาจักรการปล่อยของ ในขณะที่องค์กรของรัฐไม่สามารถปรับตัวได้ทัน กลายเป็นผู้ตามอยู่หลายร้อยก้าว (ไม่ใช่แค่หนึ่งก้าว) อีกทั้งเจ้าหน้าที่ในองค์กรรัฐ กลับทำตัวเป็นมะเร็งร้ายเสียเอง

ประเทศจึงเปรียบเหมือนกับเด็กหญิง ที่ถูกผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ชายในครอบครัว กระทำอนาจารทางเพศ เพื่อสนองตัณหาของตนเอง แม้จะผู้หญิงในครอบครัวบางคนรู้ แต่กลับทำเหมือนเฉย เพราะตนเองก็ได้ผลประโยชน์ส่วนหนึ่ง หรือไม่ก็คิดว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ มันจึงเป็นความเศร้าที่ยิ่งกว่าโศกนาฏกรรม หรือจะเรียกอีกอย่างว่าโศกนาฏกรรมเงียบก็ได้ เพราะมันทำลายทรัพยากรมนุษย์อย่างไม่ให้ใครรู้ตัวนั่นเอง


** ด้วยมีคนติติงมาว่า ทำไมกระทู้ของเรามีภาพประกอบเยอะเกินไป โดยไม่จำเป็น ดังนั้น กระทู้นี้ก็เลยเหลือแค่ภาพเดียวนะ อยากเห็นเต็มๆ ก็เข้าไปที่มา เชิญดูให้เต็มตาครับ **

ที่มา : http://thaiinfonet.com/ทั่วไป/ค่านิยมเด็กไทยวันนี้/
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

ผู้ชมหน้านี้ :

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น