“มะเร็ง” หายขาดได้ ถ้ารักษาเร็ว



สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ทำการระดมแพทย์ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง พร้อมระบุมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม  มะเร็งลูกอัณฑะ และมะเร็งรังไข่ชนิดเนื้อเยื่อบุผิว หากตรวจพบในระยะเริ่มแรกสามารถทำการรักษาให้หายขาดได้



 นายแพทย์ภาสกรชัยวานิชศิริ    รองอธิบดีกรมการแพทย์  ได้เปิดเผย ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติ ครั้งที่ 12 ว่า  โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของทุกประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย จากรายงานของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2554 พบว่า ปัจจุบันคนไทยเสียชีวิต  จากโรคมะเร็ง ปีละประมาณ 60,000 รายหรือเฉลี่ย 7 รายต่อชั่วโมง และยังคงพบอัตราการเกิดของโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกปี   โดยมะเร็งที่พบมากที่สุด 3 อันดับแรกในเพศชาย คือ

1.มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี

2.มะเร็งปอด

3.มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

ส่วน 3 อันดับแรกในเพศหญิง คือ

1.มะเร็งเต้านม

2.มะเร็งปากมดลูก  

3.มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี 

ในส่วนของการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ต้องใช้ระยะเวลาต่อเนื่องและเสียค่าใช้จ่ายที่สูง  จึงส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ  ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาโรคมะเร็ง  และเพื่อให้มีผลลัพธ์จากความก้าวหน้าทางวิชาการ  มีความเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์การควบคุมโรคมะเร็งระดับชาติ   ซึ่งจะนำไปสู่การดำเนินงานของแผนพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข  คือการลดอัตราการเกิดและการตายจากโรคมะเร็ง  ทำให้ประชาชนชาวไทยห่างไกลจากโรคมะเร็ง ยกระดับการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน  ซึ่งนับว่า เป็นการพัฒนาประเทศอีกทางหนึ่ง ดังนั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ   จึงร่วมมือกับโรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาค 7 แห่ง ของกรมการแพทย์ จัดประชุมวิชาการโรคมะเร็งแห่งชาติในหัวข้อ “National Strategies to Nationwide Cancer Care”  โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบไปด้วย แพทย์ พยาบาล นักวิชาการ นักวิจัย บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง ในหลากหลายสาขา จำนวนกว่า 800 คน จากทั่วประเทศ   โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง  ได้ทราบถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และวิทยาการต่างๆในการป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคมะเร็ง  รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำไปพัฒนาการป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคมะเร็งให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น



นายแพทย์วีรวุฒิ  อิ่มสำราญ  ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ  ได้กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นกลุ่มของโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์มากกว่าปกติ  ทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง หลอดเลือดและหลอดน้ำเหลือง  และในที่สุด ก็จะทำให้เกิดการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะเหล่านั้นผิดปกติ  โดยมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ที่สำคัญ 3 ประการ คือ

1.ปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมภายนอกร่างกาย เช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม  ยารักษาโรค  รวมทั้งการได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และพยาธิบางชนิด

2.ปัจจัยจากพฤติกรรม  เช่น การสูบบุหรี่  ดื่มสุราเป็นประจำ และการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรือเค็มจัด อาหารที่มีส่วนผสมดินประสิวและไหม้เกรียมเป็นประจำ

3.ปัจจัยทางพันธุกรรม เช่น ความผิดปกติของยีน และความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน



ในปัจจุบัน แพทย์สามารถรักษาโรคมะเร็งหลายชนิดให้หายขาดได้ และทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีอัตราการรอดชีวิตที่ยาวนานมากขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของมะเร็งที่พบ  เพราะมะเร็งระยะเริ่มแรก ย่อมมีการตอบสนองต่อการรักษาหรือมีโอกาสหายขาดมากกว่าระยะลุกลาม หรือระยะสุดท้าย  ดังนั้น  การตรวจค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรกจึงมีความสำคัญมากค่ะ

สำหรับการป้องกันโรคมะเร็ง มีหลักการง่ายๆ คือ ออกกำลังกายประจำ ทำจิตใจให้แจ่มใส กินผักผลไม้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมื้ออาหาร  กินอาหารให้หลากหลาย ไม่ซ้ำซาก จำเจ และใหม่สด สะอาด ปราศจากเชื้อรา ไม่กินอาหารที่มีไขมันสูง  อาหารปิ้งย่างหรือทอดไหม้เกรียม  อาหารหมักดองเค็ม และปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดดิบๆ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา  ไม่มีเซ็กซ์มั่วหรือไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย  ไม่อยู่กลางแดดนานๆ  และที่สำคัญ คือตรวจร่างกายเพื่อค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรก เป็นประจำอย่างน้อยปีละครั้ง
___________________________________________________________________________
ที่มา : กรมการแพทย์
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น