โอเลี้ยง. มีต้นกำเนิดจากที่ไหน มีความเป็นมาอย่างไร

โอเลี้ยง หรือ กาแฟดำเย็น ทำจากกาแฟผสมกับน้ำเชื่อมแล้วจึงใส่น้ำแข็งลงไป คำว่า โอเลี้ยง มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว (จีนตัวย่อ乌凉จีนตัวเต็ม烏涼พินอินwū liáng) คำว่า โอ หมายถึง ดำ เลี้ยง หมายถึง เย็น รวมแล้วหมายถึง ดำและเย็น


เครื่องดื่มโอเลี้ยง. มีต้นกำเนิดจากที่ไหน โอเลี้ยงมาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว บ่งบอกถึงที่มาว่าเป็นเครื่องดื่มของชาวจีน ซึ่งตามประวัติศาสตร์ ชาวจีนแต้จิ๋วอพยพมาอยู่ไทยมากในช่วงหลังสิ้นสมัยอยุธยาเป็นราชธานี 
ขอตอบที่มาของโอเลี้ยงใส่นมจึงเรียกโอเลี้ยงยกล้อโอเลี้ยง : 
โอเลี้ยงเป็นคำที่มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว 


"โอ" แปลว่า ดำ 
"เลี้ยง" แปลว่า เย็น 
รวมแล้วหมายถึง สิ่งที่มีสีดำและเย็น ก็คือ กาแฟดำเย็น 
โอวเลี้ยง ทำมาจากผงกาแฟ ที่ใช้ชงกาแฟโบราณ 
ซึ่งถ้าไปดูส่วนประกอบกันจริงๆ แล้ว ได้จากการนำ เมล็ดกาแฟบด 
เพิ่มเติม....... 


ตำนานการดื่มกาแฟ 
มนุษย์รู้จักดื่มกาแฟตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 แถบทวีปอัฟริกา มีเรื่องเล่าว่าประมาณ 
ค.ศ. 1400 คนเลี้ยงแพะในเอธิโอเปียชื่อ คัลได สังเกตเห็นแพะที่เขาเลี้ยงกระโดด 
โลดเต้นอย่างสนุกสนานเมื่อกินผลไม้สีแดงๆคัลไดลองกินดูก็รู้สึกสดชื่นภรรยาของเขา 
จึงนำไปถวายพระ พระได้นำไปเผาไฟเพื่อหวังลดอำนาจของผลไม้นี้ลง แต่กลับ 
มีกลิ่นหอมน่าพิสมัย จึงนำมาทุบและใส่น้ำเพื่อดับไฟ เมื่อลองดึ่มน้ำนั้นก็รู้สึก 
สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ต่อมาพวกพ่อค้าจึงนำออกไปเผยแพร่ 
สำหรับยุโรปนั้นเริ่มรู้จักกาแฟเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยนักแสวงโชคและผู้ที่ทำให้กาแฟได้รับความนิยมในยุโรป 
มากยิ่งขึ้นก็คือ สุไลมาน อัลการาชทูตประจำราชสำนักพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส หรือราวปี ค.ศ. 1715 
จากนั้นกาแฟก็มีราคาสูงขึ้น เพราะขุนนางฝรั่งเศสติดกาแฟกันงอมแงม ชาวยุโรปได้รู้จักดื่มกาแฟอย่างจริงจังเมื่อ 
ศตวรรษที่ 19 แต่อยู่ในกลุ่มนักเขียนและผู้ฐานะดีเท่านั้น ชาวฝรั่งเศสได้นำไปทดลองปลูกในตอนใต้ของประเทศแต่ไม่ได้ผลชาวฮอลแลนด์นำไปทดลองปลูกที่เกาะลังกาและหมู่เกาะอินเดียตะวันออกได้สำเร็จ ฝรั่งเศสจึงทำตามบ้างทั้งสองประเทศนี้หวงพันธุ์กาแฟมาก เมี่อฝรั่งเศสกับฮอลแลนด์มีปัญหาเรื่องพรมแดนในกานา กษัตริย์บราซิลได้ส่งทูตไปไกล่เกลี่ย และแอบนำกาแฟมาขยายพันธุ์ในบราซิลจนกลายเป็นแหล่งฝลิตกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาจนถึงทุกวันนี้


โอเลี้ยงแก้ง่วง โครตเข้มเลย ToT 

อีกตำนานหนึ่งกล่าวถึงความเป็นมาของกาแฟว่ามนุษย์คนแรกที่รู้จักและดื่มน้ำกาแฟคือ มัฟทิ แห่งเอเดนในสมัย 
ศตวรรษที่ 9 ส่วนอีกตำนานหนึ่งบอกว่าผู้ที่รู้จักรสชาติของกาแฟเป็นคนแรกคือนักบวชในศาสนาอิสลามชาว 
ตะวันออกกลางชื่อ เดลี ผู้มักง่วงเหงาหาวนอนเป็นนิจในขณะสวดมนต์ และนักบวชผู้นี้ได้พิชิตความง่วงด้วยการ 
ดื่มน้ำต้ม จากกาแฟที่มีคนบอกมาอีกต่อ หนึ่งหลังจากนั้นก็ได้กระจาย ไปทั่วจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของ 
ชาวตะวันออกกลางและส่วนผสมอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่เมล็ดกาแฟเพียงอย่างเดียว 
เช่น เมล็ดข้าวโพด เมล็ดมะขาวที่คั่วแล้ว เป็นต้น ถ้าใส่น้ำแข็งก็เป็นโอวเลี้ยง ไม่ใส่น้ำแข็งก็เป็นโอวยั๊วะ 
ส่วนกาแฟดำที่ส่วนใหญ่นิยมดื่มกัน มาจากการนำ กาแฟผง หรือ กาแฟสำเร็จรูปแบบเกล็ด (instant coffee) มาละลายด้วยน้ำร้อน หรือ เรียกว่าชง โดยจะเติมน้ำตาลหรือไม่ก็ได้บางท่านอาจสรุปได้ดังนี้คือ 
กาแฟดำ หรือ จีนแต้จิ๋ว เรียก โอวยั๊ว 
หรือบางคนเรียกเต็มยศว่า โกปี่โอว (โกปี้ = กาแฟ,โอว = ดำ) 
กาแฟดำ + น้ำแข็ง = โอเลี้ยง 
กาแฟดำ + นมข้น = โกปี๊ 
กาแฟดำ + น้ำแข็ง + นมสด = โอเลี้ยงยกล้อ 
กาแฟดำ + นมข้น + น้ำแข็ง + นมสด = กาแฟเย็น

______________________________________________________________________
ที่มา : http://th.wikipedia.org/ , https://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20130616165843AAd67Ix
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น