มาล้างบางนักการเมือง ต่ำมาตรฐาน...ด้วยหลักเกณฑ์ กันดีกว่า

เราจะไปต่อกันอย่างไร..

                     และแล้ว วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ก็ถูกกำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง คงไม่มีใครปฏิเสธว่า สีสันของการแข่งขันลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ อยู่ที่ผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ที่ต่างถูกตราหน้าว่าเป็นแค่นอมินีทั้งคู่ ไม่มีอำนาจตัดสินใจที่แท้จริง คนที่มีอำนาจเบื้องหลังต่างหาก ที่คือคนที่กำหนดนโบาย ทิศทางการบริหารประเทศ

                    ดังนั้นผู้เขียนจึงขอมีส่วนร่วมโดยนำสาระสำคัญเกี่ยวกับ ตัวชี้วัดถึงคุณสมบัติของผู้สมัคร ในระดับเขต และคุณสมบัติของพรรคการเมือง มาเพื่อเป็นองค์ประกอบในการเลือกหรือกาบัตรเลือกตั้ง ดีกว่าใช้ความรู้สึก ที่โหนไปตามกระแส ของสื่อ(แอบ) หรือหัวคะแนน ที่ล้วนแต่มีธงในใจ และมีผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งสิ้น ส่วนเรื่องที่ควรนำมาพิจารณาเสริมต่อจากนั้น คือ ทัศนคติ พฤติกรรม ประวัติการทำงาน และนโยบาย ซึ่งตรงนี้ อาจพิสูจน์ยาก เพราะส่วนใหญ่ คนคิด คนเขียน ส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้สมัครนั่นเอง
                    ส่วนตัวชี้วัดที่ผู้เขียนกล่าวถึงนั้น แม้จะเคยนำเสนอมาแล้ว แต่ก็ยังคงมี เที่ยงตรง คมชัด ในการแยกแยะน้ำหนัก ความแตกต่าง ระหว่างน้ำหอมกับอุจาระ ระหว่างเทวดากับซาตาน หรือระหว่างนางฟ้ากับนางมารได้ดี ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นผลงานของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาด้านวิชาการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ผู้เขียนเห็นว่าเป็นประโยชน์ประกอบการตัดสินใจในการเลือกตั้งในทุกระดับต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยกล่าวถึง


คุณสมบัติของพลเมืองที่ดี ควรมีคุณสมบัติดังนี้
                  1. ประกอบสัมมาอาชีพที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม รวมทั้งไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพ
                  2. ไม่เป็นและไม่คบหาอันธพาล เกะกะระราน ข่มขู่ คุกคาม
                  3. เสียภาษีให้รัฐอย่างถูกต้อง ไม่หลบเลี่ยงภาษี
                  4. ไม่หลบเลี่ยงหน้าที่ตามกฎหมาย
                  5. รักษาศีลห้าอยู่เป็นนิจ หรือรักษาคุณธรรมตามศาสนาหรือลัทธิที่ตนนับถือ
                  6. ยึดมั่นในอุดมการณ์ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

คุณสมบัติของนักการเมืองที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้

                 1. เป็นพลเมืองดี
                 2. มีประวัติการทำงานหรือผลงานที่ผ่านมาดีและเป็นที่ยอมรับของประชาชน และไม่มีประวัติด่างพร้อย
                 3. เคารพกฎหมาย ระเบียบและกติกาของบ้านเมือง
                 4. มีบทบาทในการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย
                 5. มีการหาเสียงหรือการแนะนำตัวอย่างสร้างสรรค์ โดยไม่ทำผิดกติกาเลือกตั้ง (ไม่ซื้อเสียง ไม่โกงการเลือกตั้ง ไม่กล่าวร้ายป้ายสี)
                 6. เข้าถึงประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและนำมาแก้ไข โดยเสนอเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
                 7. เป็นแบบอย่างของการรู้จักรักษาประโยชน์ส่วนรวมเหนือประโยชน์ของพรรค/ทีมและส่วนตัว
                 8. กระตุ้น ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักรวมกลุ่มและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
                 9. เป็นแบบอย่างในความมีคุณธรรม ซื่อสัตย์ กล้าหาญ เสียสละและรู้จักกาลเทศะ ในการปฏิบัติหน้าที่และบริหาร/ท้องถิ่น/ประเทศ
               10. ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
พรรคการเมืองที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้
                1. นโยบายของพรรคการเมืองจะต้องชัดเจน เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและมีแนวทางปฏิบัติให้เป็นจริงได้
                2. ระบบบริหารของพรรคยึดหลักการประชาธิปไตย
                3. มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
                4. ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้
                5. เป็นพรรคที่รวมคนทุกกลุ่มในสังคม/ท้องถิ่นเป็นสมาชิก ไม่ใช่ยึดติดเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
                6. ตอบสนองต่อผลประโยชน์ของประชาชนและท้องถิ่น/ประเทศชาติโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง รวมทั้งไม่มีข้อบังคับที่กำหนดให้ สมาชิกฯต้องลงมติที่ขัดต่อผลประโยชน์ส่วนรวม
               7 เคารพและปฏิบัติตามหลักศีลธรรม หลักคุณธรรม หลักจริยธรรม และหลักกฎหมาย


                เป็นยังไงบ้างครับ ผู้อ่านลองพิจารณาผู้ที่เสนอตัวรับสมัครรับเลือกตั้งดูว่า ขณะนี้เขาเป็นพลเมืองดีแล้วหรือยัง ถ้ายังก็ช่วยเอาเท้าสะกิดและกระซิบคนข้างๆตัวว่า “อย่าไปเลือกมันมันเลย เป็นพลเมืองดียังไม่ได้ มันจะเป็นตัวแทนที่ดีของเราได้ยังไง..” และถ้าผ่านเกณฑ์พลเมืองดีแล้ว ก็ลองพิจารณาดูว่า เขาเหล่านั้นมีคุณสมบัติที่ดีของนักการเมืองหรือไม่ ถ้าไม่ ก็ขอร้องให้เขาพิจารณาถอนตัวเถิด มิเช่นนั้น เขาจะไม่เหลือซึ่งความเป็นพลเมืองดี


                สุดท้ายก็คุณสมบัติที่ดีพรรคการเมืองที่ดี ไว้สำหรับพิจารณาเลือกสมาชิกสภาผู้แทนในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งในวันนี้ มีพรรคการเมืองเสนอตัวมากกว่า 26 พรรคฯ จนยากที่ประชาชนจะจำชื่อได้ครบถ้วน ก็ขอนำมาฝากสำหรับบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองไว้นำไปปรับใช้ในบริหารจัดการหรือดำเนินกิจกรรมพรรคการเมืองด้วย หากนำตัวชี้วัดของภาวะผู้นำของแต่ละหัวหน้าพรรคมาพิจารณาประกอบ การเมืองไทยคงเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์เป็นแน่แท้.. แต่ถ้ายังคงวนเวียนกับผลประโยชน์ส่วนตนหรือเฉพาะกลุ่ม เอาอารมณ์ความรู้สึกนำเหตุผล ประโยชน์ส่วนรวม ถือเป็นวิบากกรรมของประเทศไทยละครับ....ศณีรา รายงาน
______________________________________________________________________
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=714590
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ27/1/57 21:59

    เขาว่าล้างบาง ไม่ใช่ล้างชาม
    ต้องจับล้างน้ำ เอาตะแกรงกรองไว้
    หาคนดีๆ ที่น่าไว้ใจ บนแผ่นดินไทยยังไม่สิ้นคนดี

    ตอบลบ

เรื่องเด็ด น่าคิด น่าชม ที่ทุกที่ ทุกเวลา เรื่องเด็ด น่าคิด น่าชม ที่ทุกที่ ทุกเวลา 108thinks.blogspot.com