คนไข้ แฉพาพ่อไป รพ. แต่หมอบอกไว้อาการหนักแล้วค่อยมา

ดราม่าหมอ-คนไข้ ชาวเน็ตแฉ พาหมอไปหาหมอเพราะเป็นลม กินข้าวไม่ได้ แต่หมอพูดจากไม่ดีใส่ บอกอาการไม่หนักไม่ต้องมาเสาร์-อาทิตย์ ด้านหมอชี้แจงไม่เคยแบ่งแยกคนไข้ ชี้คนไข้ไม่ได้อาการหนักจริง ๆ 

          วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2558) ได้เกิดกระแสดราม่าครั้งใหญ่ระหว่างญาติผู้ป่วยกับหมออีกครั้ง หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "พัลลภ ทหารของพระราชา" ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาพาคุณพ่อไปหาหมอที่โรงพยาบาลระยองในช่วงสายที่ผ่านมา ด้วยอาการเป็นลม ไม่มีแรง ทานอาหารไม่ได้ และอาเจียน แต่กลับถูกคุณหมอพูดจาไม่ดีใส่ ดังเรื่องราวต่อไปนี้ 

          "ผมขอความเห็นหน่อยกับการพูดของหมอคนนี้ ที่ รพ. ระยอง

          หมอหนุ่ม = เป็นอะไรมาครับ

          คนไข้ = เป็นลมครับ ไม่มีแรง กินอาหารไม่ได้เลย แล้วก็อาเจียน

          หมอหนุ่ม = (พูดด้วยอารมณ์ไม่พอใจ) อาการแค่นี้ ทำไมต้องมา รพ. ด้วย รพ. เสาร์-อาทิตย์ เอาไว้รักษาคนที่อาการหนักจริง ๆ นะ วันนี้จะรักษาให้นะ แต่ครั้งหน้าไม่ต้องมานะ เอาให้หนักกว่านี้แล้วค่อยมา (แต่เท่าที่ผมมองดูที่รอบ ๆ ห้องฉุกเฉินก็มีแต่คนที่มารักษาด้วยอาการ เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ไม่สบาย ไม่เห็นมีเคสที่ใครแขนขาด ขาหัก คอขาดสักคน ณ เวลา 9.40 น. วันที่ 1/02/2558)

          ตัวผม = หมอครับ พ่อผมป่วย กินข้าวไม่ได้ ตัวผอมมาก เมื่อวาน เดินไม่ได้นอนซมทั้งคืน พ่อผมเป็นแบบนี้ผมก็ต้องเอาพ่อผมมา รพ. หาหมอสิครับ ทำไมหมอพูดแบบนี้ ให้หนักกว่านี้แล้วค่อยมา 

          หมอหนุ่ม = ก็ห้องฉุกเฉิน เอาไว้รักษาคนที่อาการหนัก ๆ เท่านั้นนะ ย้ำ อาการหนัก ๆ เท่านั้น

          ตัวผม = ความหมาย อาการหนักแบบไหนครับ ของหมอที่พูด

          หมอหนุ่ม = เอาละ ๆๆ วันนี้จะรักษาให้นะ แต่หมอให้กลับบ้านนะ ดูอาการให้แล้ว เอาคนไข้ ไปเจาะเลือด เอกซเรย์ดูปอด ด้วยนะ (หมอบอกกับพยาบาล)

          ตัวผม = ขอบคุณครับหมอ .....(สมัยนี้ รพ. ระยอง หมอจบใหม่ ทำไมพูดแล้วใช้อารมณ์กับคนไข้ ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องอาศัยการรักษาตัวจาก รพ. ของรัฐ เป็นที่พึ่งแหล่งสุดท้าย) ถ้าหากผมมีเงินผมคงพาพ่อผม ไปรักษาที่ รพ. เอกชน หรอก คงไม่มาที่นี้หรอกจริงไหม เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ผมยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อผมตลอด (อดีตทหารนอกราชการคนหนึ่ง)

          หมอหนุ่ม คือหมอที่เห็นตามรูปนี้เลยนะครับ"


          และนั่นทำให้มีชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าคุณหมอหนุ่มคนดังกล่าว โดยวิพากษ์วิจารณ์ถึงมารยาทที่ไม่ดี แบ่งแยกคนไข้ในการรักษา ถ้าหากตนมีเงินพอก็คงจะไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแล้ว ขณะที่อีกหลายคนยังเข้ามาเผยว่าเคยเจอประสบการณ์แย่ ๆ ที่โรงพยาบาลแห่งนี้เช่นเดียวกัน

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่คุณหมอคนดังกล่าวถูกชาวเน็ตโจมตีอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็ได้ออกมาระบายความรู้สึกพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านทางเฟซบุ๊ก "Tunlanan Lekbornvornwong" แล้วในวันเดียวกัน โดยระบุว่า 

          "โดนจนได้ เป็นเคส ผู้ป่วยชายวัยสูงอายุ มาด้วยอาการกินไม่ได้ มา 10 วัน ตรวจสัญญานชีพ v/s. BP BT. RR. ปกติ ผู้ป่วยเดินมาเอง ไม่ได้มาด้วยรถนั่งหรือรถนอน ซักประวัติ ไม่มีไข้ ไม่มีน้ำหนักลด ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ กลืนไม่ติด 

          ผมเลยบอกญาติและคนไข้ว่า อาการว่าไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินเฉย ๆ ซึ่งผมก็ดูแลเขาเต็มที่ สั่ง cbc, bun, cr, elyte, ca, mg, po4, albumin และ ekg, cxr , Dtx. Stat ให้ผู้ป่วยไปเจาะเลือด รอผล แต่ญาติผู้ป่วยไม่รู้คิดอะไรมาแอบถ่ายรูปผมใน ER. และมาโพสต์โดยให้ข้อความเสียหายแก่ผม ซึ่งถือว่ามีความผิดจริงตามกฎหมาย ที่ผมพูดเป็นความสัตย์จริงทุกอย่าง ผมไม่เคยดูแคลนคนไข้เลย ผมตั้งใจตรวจทุกคน แต่สิ่งที่ผมได้คือ ต้องมาเจอคนที่อารมณ์ร้อน แล้วไม่เข้าใจ ไม่พอใจก็โพสต์ social ด่าผมหรือครับ"

          ขณะที่เพื่อน ๆ ของคุณหมอรายนี้ต่างก็เข้ามาให้กำลังใจแก่เขา โดยบางคนยังบอกด้วยว่าอย่าไปสนใจคนเหล่านี้เลย อย่าให้คนแย่ ๆ กลุ่มหนึ่งมาบั่นทอนกำลังใจ พร้อมบอกว่ามันคงเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่จะต้องผ่านไปให้ได้ เชื่อว่าคุณหมอดูแลคนไข้อย่างดีที่สุดแล้ว เพราะที่ผ่านมาโรงพยาบาลอื่นที่หมอเคยไปตรวจรักษาก็มีแต่เสียงชื่นชม

          ต่อมาคุณหมอรายนี้ยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า "ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะครับ สังคมสมัยนี้น่ากลัวมาก เราทำอะไร เขาก็หาว่าเราผิดตลอด เราเรียนกันมาอย่างน้อยก็ 6 ปี ผมไม่เชื่อหรอกนะว่า หมออ่ะ จะไม่มีจิตใจรักษา เราทุกคนพยายามช่วยคนไข้ทุกคน ไม่แบ่งระดับ แต่ทุกวันนี้เขากลับเห็นว่าเราเป็นยมทูต หรือ รพ. ฆ่าสัตว์ ต้องตอบสนองความต้องการเขาอย่างเดียว ไม่พอใจเมื่อไร โพสต์ด่าเมื่อนั้น"



          อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เกิดขึ้นก็ยังมีคนอีกหมู่มากที่ขาดความเข้าใจ ถึงคำว่าผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาอย่างฉุกเฉิน ว่าผู้ป่วยลักษณะไหนที่จะเข้าข่ายดังกล่าวแล้วต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนกันแน่ ซึ่งทางเพจ "Drama-addict" ก็ได้ออกมาไขข้อข้องใจในประเด็นดังกล่าวแล้ว ดังนี้

          "เคสนี้พูดยาก คือลูกชายของลุงในภาพเขาเล่าว่า พ่อเขาไม่สบาย คลื่นไส้อาเจียนอ่อนเพลีย จึงพาไปห้องฉุกเฉิน แล้วโดนหมอดุว่าทำไมพามาวันนี้ นี่วันหยุดนะ นี่ห้องฉุกเฉินนะ ตรวจแต่คนไข้อาการหนักเท่านั้น ลูกชายคนไข้ก็แย้งว่าพ่อผมก็อาการหนักนะหมอ พ่อผมอ่อนเพลียมากเลย หมอก็เออ ๆ แล้วก็ตรวจให้ ต่อมาลูกชายของคนไข้ก็โพสต์ภาพหมอลงเน็ต คนก็ด่าหมอกันตรึมว่าหมอชั่วหมอเลวไร้จรรยาบรรณ ประเด็นนี้มันพูดยากตรงที่ ห้องฉุกเฉินนั้นเป็นที่ ๆ สำหรับไว้ตรวจผู้ป่วยที่มีอาการฉุกเฉิน นิยามของผู้ป่วยฉุกเฉินคืออะไร มันหมายถึง

          1. ผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุทุกชนิดภายใน 24 ชั่วโมง

          2. ผู้ป่วยหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น

          3. ผู้ป่วยที่มีระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง หรือผู้ป่วยที่มีภาวะการอ่อนแรงของกล้ามเนื้ออย่างทันทีทันใด

          4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะช็อก

          5. ผู้ป่วยหายใจลำบาก

          6. ผู้ป่วยชัก (ภายใน 24 ชั่วโมง)

          7. ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บอก คล้ายอาการของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงเฉียบพลัน มีใจสั่นมาก หรือมีการ เต้นของหัวใจผิดปกติ

          8. ผู้ป่วยที่มีเลือดออกมาก ได้แก่ อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระออกมาเป็นเลือดสด ๆ เป็นต้น

          9. ได้รับสารพิษ สารเคมีหรือได้รับยาเกินขนาด

          10. มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เช่น เศษอาหารติดคอ ก้างปลาติดคอ

          11. มีภาวะทางจิตเฉียบพลันหรืออยู่ในภาวะก้าวร้าวมาก

          12. มีภาวะความไม่สุขสบายหรือมีความเจ็บปวดมาก

          13. เด็กหรือหญิงที่ถูกกระทำอนาจารทางเพศ เด็กที่ถูกละเลย เพิกเฉย ไม่ดูแลหรือกระทำทารุณต่อเด็ก (Child abuse โดยนับอายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 18 ปี)

          14. ผู้ป่วยคดี เช่น ผู้ที่ตำรวจพามาเพื่อต้องการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ผู้ป่วยต้องสงสัยที่ตำรวจ ต้องการตรวจหาเขม่าดินปืน เป็นต้น

          15. ผู้ป่วยเด็กที่มีไข้สูง เสี่ยงต่อการชัก

          พวกนี้ถือว่าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่ควรได้รับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน

          ถ้าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการไม่เข้าข่ายกลุ่มนี้ สามารถรอแล้วไปตรวจที่คลินิคผู้ป่วยนอกในเวลาราชการได้ ทุกวันนี้ปัญหาที่เจอบ่อย ๆ คือ คนไทยไม่เข้าใจว่าอะไรคือฉุกเฉิน อะไรคือไม่ฉุกเฉิน บางทีคนไข้มีไข้วันสองวัน หรือไอเจ็บคอก็มาห้องฉุกเฉินแล้ว ซึ่งมันไม่ถูกต้อง บางคนก็มาเพราะเข้าใจว่าตัวเองป่วยฉุกเฉิน บางคนก็มาเพราะหัวใสไม่อยากต่อคิวนาน ๆ ที่คลินิคผู้ป่วยนอกในเวลาราชการ ซึ่งถ้าทำอย่างนี้กันเยอะ ๆ จะทำให้ระบบมันพังหมด หมอที่ห้องฉุกเฉินที่ควรจะตรวจคนไข้ฉุกเฉินก็ต้องมานั่งตรวจผู้ป่วยที่ควรจะไปตรวจผู้ป่วยนอกแต่มาผิดที่ผิดเวลาจนงานโหลดเละเทะ ส่วนเหตุการณ์ในภาพนี้ ไม่สามารถบอกได้ว่าใครถูกใครผิด เพราะผู้ป่วยอายุมาก ๆ ที่คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องเสียเยอะ ๆ จนความดันต่ำ หรือเป็นลมหมดสติ ก็ถือว่าเป็นภาวะฉุกเฉินได้เหมือนกัน ยิ่งเป็นคนสูงอายุยิ่งไม่ควรมองข้ามนะครับ ก็เห็นใจทั้งสองฝ่ายนะ แต่จะแก้ปัญหานี้ได้คงต้องให้ข้อมูลกับประชาชนเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉิน และการดูแลตัวเองเบื้องต้นให้มากขึ้น หมอเองก็ต้องปรับปรุงเรื่องการสื่อสารกับประชาชนด้วยเหมือนกัน"

          งานนี้ก็เลยทำให้เสียงจากชาวเน็ตแบ่งออกเป็นสองฝ่าย โดยฝั่งหนึ่งมองว่าหมอทำไม่ถูกและขาดการสื่อสารที่ดีกับคนไข้ เนื่องจากผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุแล้วจึงไม่ควรมองข้ามความผิดปกติที่เกิดขึ้น และควรให้การรักษาโดยไม่แบ่งแบก ในขณะที่อีกฝ่ายชี้ว่าอาการแบบนี้ไม่ได้เข้าข่ายฉุกเฉินสักเท่าไรนัก และเป็นที่น่าเบื่อหน่ายอย่างยิ่งสำหรับคนสมัยนี้ที่สักแต่โพสต์ลงอินเทอร์เน็ตโดยขาดความยั้งคิด 



ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/115138
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

ผู้ชมหน้านี้ :

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น