สหรัฐฯ เรียกคืน แอปเปิ้ลกาล่า พบแพร่โรคอันตราย



อย.สหรัฐฯ เรียกคืน “แอปเปิ้ลกาล่า” พบแพร่โรคอันตราย-ไทยกักล็อตแรกที่แหลมฉบัง!!

วันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงวันที่ 14 มกราคม 2558 เรื่อง องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) แจ้งการเรียกคืนสินค้าของบริษัท Bidart Bros. โดยหนังสือระบุว่า ด้วยสำนักงานที่ปรึกษาฯได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา แจ้งว่าสินค้าของบริษัท Bidart Bros. ได้ถูกเรียกคืนจากการจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากตรวจพบว่าการใช้หรือสัมผัสกับสินค้าดังกล่าว อาจเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ หรืออันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ และองค์การอาหารและบยาสหรัฐฯ ได้รับข้อมูลว่า สินค้าดังกล่าว ได้ถูกส่งออกไปจำหน่ายในประเทศไทย หรือบริเวณใกล้เคียง

แต่เนื่องจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ไม่สามารถติดตามตรวจสอบสินค้าที่ได้ถูกส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ จึงได้แจ้งมายังทางการไทย เพื่อพิจารณาติดตาม ตรวจสอบและเรียกคืนสินค้าเหล่านั้นออกจากการจัดจำหน่ายในประเทศไทยตามที่เห็นสมควรต่อไป

ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวได้แนบข้อมูลประกอบดังนี้ 1.สินค้าดังกล่าวเป็นของบริษัท Bidart Bros. 2.สินค้าที่ถูกเรียกคืน ได้แก่ แอปเปิ้ล พันธ์กาล่า ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Big B” และแอปเปิ้ลพันธุ์แกรนนี่สมิธ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “Big B” หรือ “Granny’s Best”

3. เหตุผลในการเรียกคืนสินค้า เนื่องจากสินค้าทั้งสองรายการมีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรค Listeriosis ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กแรกเกิด หญิงมีครรภ์ และคนชรา หรือผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง 4.รายชื่อบริษัทที่รับสินค้าดังกล่าวในประเทศไทย ได้แก่ Fiesta Fruit , Inc , MB Fresh International , Paramount Export Co., United Fruits Corp., Voita Citrus, และ Dovex Export Company

โดยหนังสือดังกล่าวยังระบุว่า จะขอติดตามและตรวจสอบการเก็บตัวอย่างสินค้า รวมทั้งมาตรการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางการไทยดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าดังกล่าว ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ทั้งนี้นอกจากหนังสือฉบับนี้ ยังได้ทำเรื่องเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แล้วเช่นกัน

ล่าสุด นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา ได้มีหนังสือแจ้งมายังไทย เพื่อเรียกเก็บคืนสินค้าแอปเปิ้ล พันธุ์กาล่า และ แกรนนี่สมิธ ภายใต้เครื่องหมายการค้า Granny’s Best หรือ Big B จากบริษัท Bidart Bros. เนื่องจากพบว่า หากมีการสัมผัสกับสินค้า อาจกระทบต่อสุขภาพ หรืออันตรายถึงขั้นเสียชีวิต โดยให้เหตุผลว่า แอปเปิ้ล ทั้ง 2 รายงการ มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาด ของโรค Listeriosis ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นอันตรายต่อเด็กแรกเกิด หญิงมีครรภ์ และคนชรา หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ดังนั้นเมื่อ กระทรวงเกษตรและหสกรณ์ ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการเมืองวันที่ 14 ม.ค.2558 จึงได้มีการสั่งการให้ กรมวิชาการเกษตรตรวจเข้มทุกด่านจำนวน 35 ด่านทั่วประเทศที่จะมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย

ล่าสุดพบว่าแอปเปิ้ล ในล็อตที่สหรัฐอเมริกาเรียกเก็บคืนนั้น ได้เข้ามายังด่านแหลมฉบัง จึงได้กักสินค้าไว้ และประสาน องค์การอาหารและยา (อย.) ของไทย เพื่อตรวจสอบสินค้าอีกครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่าแอปเปิ้ล ที่มีการปนเปื้อนแบคทีเรีย ยังไม่มีล็อตไหนหรือยังไม่มีเล็ดลอดเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยเลย

สำหรับรายชื่อบริษัทที่สั่งนำเข้าแอปเปิ้ลมายังไทย มีจำนวน 6 บริษัท ดังนี้คือ Fiesta Fruit;Inc. , MB Fresh International,Paramount Export Co., United Fruits Corp., Voita Citrus และ Dovex Export Company

“หลังจากได้รับแจ้ง จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐ ว่าให้เรียกเก็บ แอปเปิ้ล คืน 2 พันธุ์ เนื่องจากพบมีการ การปนเปื้อน แบคทีเรีย กระทรวงเกษตรได้ประสานเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสินค้า ตรวจเข้มว่ามีสินค้าของ 6 บริษัท ที่ได้รับแจ้ง เข้ามายังไทยหรือไม่ เพราะล็อตที่เป็นปัญหาส่งออกจากอเมริกาตั้งแต่ปลายปี 2557 เพิ่งจะถึงเมืองไทยในวันนี้ และได้มีการตรวจย้อนกลับไปถึงปี 2556 ไม่พบกการนำสินค้า จากบริษัททเหล่านั้นเข้ามาไทยแต่อย่างใด และผลการกักกันตามด่านตรวจสินค้าล่าสุด มีบริษัท 1 ใน 6 บริษัทที่มีการนำเข้าแอบเปิ้ลล็อตดังกล่าวแล้ว กรมวิชาการเกษตรจึงกักกันไว้ที่ด่านแหลมฉบัง เพื่อประสานอย. เก็บตัวอย่างและตรวจสอบการปนเปื้อนของแบบคทีเรียต่อไป” นายวิมล กล่าว

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชื้อลิสเทอริโอซิส (Listeriosis) เป็นเชื้อที่พบได้ในสิ่งแวดล้อม อุจจาระคนและสัตว์ และแหล่งน้ำ ซึ่งจะมีโอกาสปนเปื้อนได้ง่ายในอาหารประเภทผักสด ผลไม้ และนม ซึ่งในประเทศไทยมีการรายงานการพบเชื้อต่ำ อย่างไรก็ตาม เชื้อดังกล่าวจะมีปัญหากับกลุ่มผู้ที่มีความต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยเอชไอวี เด็ก ผู้สูงอายุ คนท้อง หรือผู้เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง มักพบว่าเชื้อดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และเชื้อขึ้นสมอง ทั้งนี้ ช่องทางการพบเชื้อครั้งนี้เกิดจากต่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีกระบวนการตรวจสอบและป้องกันสินค้านำเข้าทั้งหมดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การล้างผัก ผลไม้ ก่อนรับประทานสามารถช่วยล้างเชื้อที่ปนเปื้อนออกได้ ส่วนผลิตภัณฑ์นม ก็ควรรับประทานที่ผ่านการพาสเจอไรท์แล้ว ส่วนอาหารอื่นๆ การทำให้สุกก็สามารถฆ่าเชื้อดังกล่าวได้

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก กล่าวว่า เชื้อลิสเทอริโอซิส เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ที่สามารถก่อโรคได้ในคนทุกคน แต่จะอันตรายมากกว่าในทารก หญิงตั้งครรภ์ เพราะมีภูมิคุ้มกันร่างกายค่อนข้างต่ำ ทำให้เชื้อเข้าสู่กระแสเลือด หรือเข้าสู่สมอง ทำให้มีการอาการไข้ หรือสามารถทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตามเชื้อตัวนี้ส่วนใหญ่จะพบในผลิตภัณฑ์นม ยีสต์ เนย จึงมักพบก่อโรคในคนแถบยุโรป อเมริกา แต่ตอนนี้ก็เริ่มพบในคนไทยเช่นกันเพราะพฤติกรรมการรับประทานอาหารเปลี่ยนไป

ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า กระบวนการตรวจสอบผัก ผลไม้นำเข้า กรมวิชาการเกษตร จะเป็นผู้ดูแลโรคจากพืชและสัตว์และแมลง ที่มากับผัก ผลไม้ ส่วนอย.จะดูเรื่องสารตกสาร และเชื้อโรค โดยจะต้องขอใบอนุญาตก่อนจะผ่านด่าน ดังนั้น อาจจะต้องเข้าไปตรวจสอบที่โกดังเก็บสินค้าของบริษัทเพื่อนำมาตรวจสอบหาสารตกค้าง อายัดสินค้า และหากพบว่ามีสารตกค้างจริงจะต้องเรียกคืน
จากท้องตลาด






ที่มา : เที่ยงวันทันเหตุการณ์
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

ผู้ชมหน้านี้ :

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น