ลดความชื้นในบ้าน เพิ่มความสบายตัวเวลาอยู่บ้าน

วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องความชื้น กับการเตรียมบ้านรับหน้าร้อน ในงานเสวนาประสาคนรักบ้าน ในหัวข้อ
"ออกแบบดี เลือกวัสดุเป็น บ้านเย็นสบาย" ของทาง SCG Experience ที่อาจารย์อรรจน์ได้มาบรรยายให้ฟัง
บ้านเราเป็นเมืองร้อน(ชื้น) ถึงจะร้อนแต่ก็ร้อนปนชื้น พอให้เหนียวตัวบ้าง  แต่ถ้าความชื้นของอากาศในบ้านมากเกินไป จากที่เหนียวตัวเล็กน้อยก็จะกลายเป็นอาการไม่สบายตัว ยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อน เหงื่อจะออกง่ายกว่าปรกติอยู่แล้ว และถ้าในบ้านมีความชื้นสูง เราก็จะรู้สึกเหนียวตัว ไม่สบายตัว  
นอกจากที่ความชื้นทำให้เรารู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายตัวแล้ว หลายคนอาจจะคิดว่า แล้วความชื้นมาเกี่ยวข้องกับเรื่องบ้านเย็น บ้านประหยัดพลังงานได้อย่างไร  ความชื้นในอากาศมีผลกระทบโดยตรงกับการทำงานของแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ  ถ้าความชื้นในอากาศสูง แอร์ก็จะทำงานหนักขึ้น ทำให้เปลืองไฟมากขึ้น
จริงๆ แล้วความชื้นก็ไม่ได้เป็นผู้ร้าย หรือใจร้ายใจดำกับเราเท่าไหร่ ถ้าสามารถควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม   (ทั่วไปแล้วความชื้นภายในอาคารที่เหมาะไม่ควรเกินกว่า 50%) แต่ถ้าเมื่อใดที่ความชื้นในบ้านเกินกว่า 50%  ความชื้นจะทำให้วัสดุก่อสร้าง พื้น ผนัง วัสดุตกแต่งผิวอาคารชำรุด เสียหาย ขึ้นรา ในประเทศไทย โดยเฉพาะในหน้าร้อนและหน้าฝน ความชื้นในอากาศจะสูงกว่า 50% เป็นประจำอยู่แล้ว  ความชื้นที่มีมากไปนอกจากจะทำให้เราไม่สบายตัว  ยังไม่สบายกระเป๋าสตางค์อีกด้วย เพราะยิ่งมีความขื้นสูง แอร์ก็จะต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อรีดความชื้นออกจากห้อง ตามมาด้วยบิลค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 

เราจะป้องกันไม่ให้บ้านมีความชื้นได้ยังไงบ้าง

ความชื้นในตัวบ้านมาจากสองแหล่งใหญ่ๆ คือความชื้นในอากาศ และความชื้นที่มาจากพื้นดิน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ ความชื้นจากพื้นดินจะสูงมาก ความชื้นที่อยู่ในอากาศนั้น เราคงทำอะไรมากไม่ได้  ส่วนความชื้นที่มาจากพื้นดินนั้นพอจะป้องกันได้บ้าง มาดูกันว่าเราจะมีวิธีลดความชื้นกันได้อย่างไร
บ้านที่กำลังสร้างหรือยังไม่ได้สร้าง การป้องกันเรื่องความชื้นในบ้านไม่ให้มีมากเกินไป สำหรับบ้านที่กำลังสร้าง  อ.อรรจน์แนะนำว่าสามารถเตรียมการป้องกันได้ตั้งแต่ขั้นตอนงานโครงสร้าง-งานเทพื้นชั้นล่าง เนื่องจากพื้นชั้นล่างเป็นส่วนที่อยู่ใกล้กับพื้นดินมากที่สุด และเนื้อคอนกรีตเป็นรูพรุน ดูดซึมน้ำและความชื้น ความร้อนได้ง่าย เพื่อดินด้านล่างมีการสะสมความชื้นหรือมีน้ำใต้ดินมากๆ คอนกรีตที่อยู่เหนือดินก็จะดูดเอาความชื้นขึ้นมาสะสมไว้ที่ตัวเอง ทำให้พื้นชั้นล่างชื้น  
แล้วคนที่ซื้อบ้านโครงการล่ะ จะทราบได้ยังไงว่า ช่างเขาจะปูแผ่นพลาสติกรองพื้นให้ก่อนหรือเปล่า ตรงนี้เข้าใจว่าถ้าเป็นโครงการทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นสร้างบ้านกรีน อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่หนัก คงต้องอาศัยสอบถามจากทางโครงการโดยตรงว่ามีการปูแผ่นพลาสติกรองพื้นก่อนเทพื้นให้หรือเปล่า   ส่วนใครที่จ้างบริษัทรับสร้างบ้านหรือจ้างผู้รับเหมาเอง ก็สามารถกำหนดสเปคเหล่านี้ให้กับบริษัทรับสร้างหรือผู้รับเหมาได้เลย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ก็
บ้านที่สร้างแล้ว  นอกจากความชื้นมาจากพื้นดินแล้ว  ความชื้นยังมาพร้อมอากาศภายนอกที่รั่วซึมเข้ามาในบ้านได้เช่นกัน  สำหรับบ้านที่ปิดหน้าต่างแล้วเปิดเแอร์เป็นประจำ อาจารย์อรรจน์แนะนำว่า วิธีป้องกันอากาศภายนอกที่ปนความชื้นเข้ามาในบ้านก็คือ การเลือกใช้ประตูและหน้าต่างที่มีบังใบวงกบ เวลาปิดหน้าต่างจะช่วยลดการรั่วซึมของอากาศภายนอกเข้ามาในตัวในตัวบ้าน  ถ้าบ้านใครมีปัญหาเรื่องความชื้นในบ้านมาก ก็อาจจะลองเปลี่ยนประตูหรือหน้าต่าง หรือวงกบที่มีบังใบวงกบเพื่อลดความชื้นที่จะเข้ามาในตัวบ้าน
บังใบคืออะไร?  บังใบ คือส่วนขอบของด้านยาวของบานประตูหรือหน้าต่างที่เป็นแบบบานคู่หรือบานที่ประกบเข้ามาชิดกัน มีการทำให้มีความสูง-ต่ำไม่เท่ากัน หรือขอบวงกบที่ให้สูง-ต่ำไม่เท่ากัน  เพื่อให้วงกบและบานประตู/หน้าต่าง เมื่อเอามาติดตั้งด้วยกันแล้ว บานปิดได้สนิทแนบมากขึ้น ช่วยกันลม กันฝนสาดเข้ามาได้ (จะว่าไปประตู หน้าต่างสมัยนี้ก็มีบังใบเสียส่วนใหญ่แล้ว)

ตัวอย่างบานประตู-หน้าต่างที่ทำบังใบ ขอบบานที่มาชนกันจะแนบสนิทกว่าบานทั่วไปที่ตัดขอบตรง
วงกบที่มีบังใบ หน้าตาก็จะประมาณนี้ค่ะ
แหล่งความชื้นอีกแหล่งหนึ่งในบ้านคือห้องน้ำ หลายๆ บ้าน มักจะใช้ประตูที่มีบานเกล็ดเป็นประตูห้องน้ำเพื่อระบายกาศในห้องน้ำ  ความชื้นจากห้องน้ำก็จะเข้ามาในห้องอื่นๆ ได้ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น  (แต่ต้องยอมรับว่าความชื้นจากส่วนนี้ ไม่มากนักเมื่อเทียบกับความชื้นในอากาศ  หลายคนจึงไม่ให้ความสำคัญกับประตูบานเกล็ดของห้องน้ำมากนัก เพราะให้ความสำคัญกับการระบายอากาศในห้องมากกว่า) 
เรื่องที่เจ้าของบ้านมักจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกอย่างก็คือ ทำน้ำพุ น้ำล้นไว้ในห้อง หรือทำสระ หรือมีบ่อน้ำเล็กๆ ไว้ในบ้าน  หวังให้น้ำช่วยทำให้บ้านเย็นสบาย ผ่อนคลายกับเสียงน้ำตก น้ำไหล หารู้มั้ยว่า การทำแหล่งน้ำมาไว้ในบ้านแบบนี้ เป็นการเพิ่มความชื้นให้กับบ้านโดยตรง  
นอกจากนั้นแล้ว  อาจารย์อรรจน์ยังแนะนำว่า ทุกครั้งที่ปิดแอร์ไม่ควรรีบเปิดประตูหน้าต่างทันที เพราะความชื้นจากภายนอกจะเข้ามาสะสมอยู่ตามโซฟาผ้า เก้าอี้บุผ้า ผ้าม่าน พรม  เมื่อเปิดแอร์อีกครั้ง แอร์จะต้องเร่งทำความเย็นมากกว่าปรกติเพื่อไล่ความชื้นที่มาเกาะสะสมอยู่ในห้องออกไป
หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ เช้าๆ วันไหนที่ไมได้เปิดแอร์  ลองเปิดประตูหน้าต่าง เปิดผ้าม่าน ให้แสงแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาในตัวบ้าน  ให้ลมโชยพัดเอาความชื้นในบ้านออกไป ก็ช่วยแก้สถานการณ์บ้านชื้นไปได้ 
วันนี้ได้ทิปส์เตรียมบ้านรับหน้าร้อนไปอีกหนึ่งเรื่องกันแล้วนะคะ  ยังมีทิปส์อื่นๆ ที่จะช่วยเรารับมือหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงได้อีก สามารถแวะเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้จาก link ด้านล่างนี้เลย

ที่มา : http://community.akanek.com/
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

ผู้ชมหน้านี้ :

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น