ร้านอาหารค้าน! ห้ามขายเหล้าปีใหม่ ชี้ซื้อตุนมาดื่มในร้านไม่ลดอุบัติเหตุ

 ร้านอาหารค้านออกกฎหมาย "ห้ามขายเหล้าวันปีใหม่" วอนเห็นใจผู้ประกอบการ ชี้ได้รับผลกระทบช่วง
เคอร์ฟิวมาแล้ว ระบุคนอยากฉลองเทศกาลแห่งความสุข นั่งดื่มที่บ้านไม่ได้ฟีลเท่านั่งร้าน รับพกเหล้ามาซดในร้านไม่เอาเปรียบผู้ประกอบการ แต่สวนกลับไม่ช่วยลดอุบัติเหตุ เพราะยังมีการดื่ม จี้รณรงค์เรื่องอื่นแก้อุบัติเหตุ ด้าน "หมอสมาน" ชี้ไม่ขายปีใหม่ ลดเจ็บตาย ได้ลูกค้าระยะยาว



        ผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังย่านถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร กทม. ซึ่งมีบริการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมผลักดันกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์หรือ วันที่ 31 ธ.ค. 1 ม.ค. และ 13-15 เม.ย. ของทุกปี เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ ว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วย และเชื่อว่ากลุ่มธุรกิจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สถานบันเทิง ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายลักษณะเช่นนี้ เราอยากให้เห็นใจผู้ประกอบการด้วย เพราะเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนอยากเฉลิมฉลอง และผู้ประกอบการสามารถทำรายได้ได้ก็น่าจะให้เต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบจากการประกาศเคอร์ฟิวไปแล้ว กว่าสถานการณ์จะกลับปกติ หากมีการออกกฎหมายบังคับเช่นนี้ก็จะทำให้กดดันมากขึ้นหรือไม่
     
       "การดื่มเหล้าไม่ได้ผิดกฎหมาย หรือไปฆ่าใครตาย แต่ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม มองว่าควรไปรณรงค์ในเรื่องอื่นมากกว่าจะออกมาเป็นกฎหมายบังคับ เช่น รณรงค์ให้คนดื่มรู้ลิมิตตัวเอง รณรงค์ดื่มแล้วไม่ควรขับรถออกมาซื้อเหล้าเบียร์อีก ของอย่างนี้อยู่ที่ตัวบุคคล จะโทษร้านขายอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่อยากตั้งคำถามคือการรณรงค์ต่างๆ ที่ผ่านมามันได้ผลจริงหรือไม่ การที่เกิดอุบัติเหตุมากขึ้นเป็นเพราะอนุญาตให้ซื้อมอเตอร์ไซค์ขับขี่ง่ายขึ้นหรือไม่ หรืออนุญาตให้ขายสุราง่ายขึ้นหรือไม่ อยากให้ลองมองถึงสาเหตุอย่างอื่นด้วยว่าควรเข้าไปแก้ไขหรือไม่" เจ้าของร้านอาหารรายดังกล่าว กล่าว
     
       ผู้ประกอบการ กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลออกกฎหมายดังกล่าวออกมาจริง ก็คงต้องยอมรับและปฏิบัติตามกฎหมาย คงไม่สามารถไปเรียกร้องอะไรได้ แต่ที่อยากขอคือลองไปสำรวจมาก่อนดีหรือไม่ว่า หากห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงนี้แล้วได้ผลดีจริงหรือไม่ หากได้ผลเกิน 90% ก็ค่อยเรียกนักธุรกิจ ผู้ประกอบการมาคุยกัน เพราะหากได้ผลดี เป็นเรื่องที่ดีจริงเราก็พร้อมยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมาอย่างร้านเราก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอด ไม่ขายเหล้าในวันพระใหญ่ วันเลือกตั้ง ซึ่งจริงๆ เราขายแค่อาหาร และเครื่องดื่มอื่นๆ ก็ได้ แต่เราก็เลือกปิดร้านไปเลย การเปิดปิดร้านก็ตามเวลาที่กำหนด ไม่ขายให้นักศึกษาที่อยู่ในเครื่องแบบ
     
       "คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นคนดื่มมากกว่า เพราะมีจำนวนมากกว่าผู้ประกอบการ ยิ่งช่วงเทศกาลแห่งความสุข คนก็อยากมาฉลอง มาเจอเพื่อนฝูง ทำงานมาทั้งปีได้รับโบนัสก็อยากจะมาผ่อนคลาย ครั้นจะให้ดื่มอยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้อารมณ์เท่ากับมานั่งตามร้าน เรียกง่ายๆ ว่าคงเซ็ง อีกประการหนึ่งคือแม้ร้านเราจะเปิดเป็นร้านอาหาร แต่สาเหตุที่มีลูกค้าเข้ามาในร้านเป็นเพราะต้องการเข้ามานั่งดื่มและฟังดนตรีสด" ผู้ประกอบการ กล่าว
     
       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สคอ.ระบุว่า แม้จะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ได้ห้ามดื่ม ผู้ดื่มสามารถซื้อตุนไว้ และพกไปดื่มในร้านได้ ผู้ประกอบการรายนี้ กล่าวว่า อย่าลืมว่าบางร้านก็มีนโยบายห้ามนำเอาอาหารและเครื่องดื่มภายนอกมารับประทาน แต่ส่วนตัวไม่ได้มองว่าเอาเปรียบผู้ประกอบการเกินไป แต่คงต้องย้อนถามว่าแท้จริงแล้วต้องการผลลัพธ์ในเรื่องใดกันแน่ เพราะหากต้องการลดอุบัติเหตุมองว่า การห้ามขายเหล้า แต่สามารถซื้อตุนไว้และพกมาดื่มในร้านได้นั้นมีค่าเท่ากัน เพราะยังมีการดื่มอยู่ดี ไม่ได้ช่วยอะไร
     
       นพ.สมาน กล่าวว่า มาตรการในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะใช้มาตรการใดมาตรการหนึ่งนั้นไม่ได้ผล แต่ต้องทำกันคนละไม้คนละมือ ซึ่งจากการที่ผู้ประกอบการมองว่าห้ามขายอย่างเดียวแต่ไม่ได้ห้ามดื่มก็ไม่ช่วยลดอุบัติเหตุนั้น ก็ต้องขอขอบคุณที่เขามองเห็นถึงปัญหาในจุดี้ แต่ขณะนี้กฎหมายเรายังไปไม่ถึงในเรื่องห้ามดื่ม มีเพียงแต่เรื่องการห้ามขาย อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีกว่าไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย เพราะการห้ามขายอย่างน้อยก็ลดการเข้าถึง โดยเฉพาะกลุ่มประเภทที่ดื่มแล้วมีการย้ายร้าน หรือดื่มแล้วไม่พอต้องขับขี่ออกไปซื้อเพิ่ม ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก ส่วนที่ผู้ประกอบการไม่เห็น้วยที่จะห้ามขายช่วงปีใหม่นั้น อยากชี้แจงว่าจริงๆ แล้วกฎหมายนี้ถ้าออกมาถือว่ามีประโยชน์ต่อระยะยาวของผู้ประกอบการเอง เพราะแม้คุณจะทำกำไรได้ก็เพียงแต่ช่วง 1-2 วันนี้ แต่หลังจากนี้คนดื่มก็เกิดอุบัติเหตุเจ็บ ตาย พิการเป็นจำนวนมาก ก็เท่ากับคุณเสียลูกค้าไป และเชื่อว่าถ้าคุณรู้ว่าเกิดอุบัติเหตุจากการมาดื่มที่ร้านคุณก็คงไม่สบายใจ ซึ่งที่ผ่านมาสถิติการเกิดอุบัติเหตุเจ็บตายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ก็ชัดเจนว่ามีเป็นจำนวนมาก จะดีกว่าหรือไม่หากช่วงนี้มาร่วมทำบุญกัน จะได้สนุกสนานอย่างแท้จริง ถือว่าได้กุศลมาก
     
       "จากการทำโพลพบว่าคนไทยกว่า 80% เห็นด้วยกับมาตรการห้ามขายเหล้าในช่วงปีใหม่ อย่างน้อยถ้าคุณไม่ขายในช่วงปีใหม่การเกิดอุบัติเหตุเจ็บตายก็น้อยลง ร้านค้าก็มีประโยชน์ที่จะขายได้ในระยะยาวต่อไป เราเข้าใจที่ว่าช่วงเทศกาลที่จะฉลองมึนเมากันอย่างสนุกสุดขีด แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมันใช่ความสนุกที่แท้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการห้ามดื่มนั้นเราก็จะมีการรณรงค์ด้วยเช่นกัน ให้ดื่มอย่างมีสติ เมาไม่ขับ" นพ.สมาน กล่าว


ที่มา :  http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9570000140735
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต




ผู้ชมหน้านี้ :  

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น