วันนี้(18 พ.ย.57)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอี้ยะ สายกระสุน อายุ 72ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 3 ต.บัก
ได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ที่ได้นำว่านโลดทะทงแดง นำมาฝน(หิน)ลงในน้ำสะอาด ผสมหมากแห้ง ฝนดื่มกินหรือแปะบาดแผล ที่โดนงูมีพิษทุกชนิดกัด จนชาวบ้านตั้งฉายาว่า “หมอเอี้ยะ” ซึ่งขณะนี้ทำงานเป็นหมออาสาร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันที่โรงพยาบาลอำเภอกาบเชิง โรงพยาบาลอำเภอปราสาท และโรงพยาบาลอำเภอพนมดงรัก หากมีเหตุการณ์ผู้ป่วยโดนสัตว์มีพิษกัดจะรีบเดินทางไปรักษาทันที ทุกวันออกตรวจเยี่ยมผู้ป่วยที่มารักษาทั้งสามแห่งเป็นประจำ โดยไม่คิดมูลค่า ส่วนว่านดังกล่าวให้บูชาเพียงชุดละ 100 บาท เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้จะให้ผู้ป่วยหรือชาวบ้านฟรี แต่ทุกวันนี้ว่านโลดทะนงแดง ในเขตพื้นที่ชายแดนเริ่มจะหายากมาก ต้องขออนุญาตในเขตพื้นที่ของทหารที่อยู่ติดกับเขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
หมอเอี้ยะเฒ่าไม่กลัวงู กล่าวว่า เมื่อ 2514 ได้ศึกษาเรื่องการแก้รักษาพิษงู หลังแม่โดนงูเห่ากัดจนเสียชีวิต ซึ่งทุกคนช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย นับตั้งแต่นั้นมาได้ขอคำแนะนำจากผู้รู้คือลุงรวมทั้งศึกษาด้วนตนเอง จนมาพบว่านโลดทะนงแดง จนปี 2523 ได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกงูกัด ซึ่งโรงพยาบาล ที่อยู่ไกลกว่า 40 กม.ประกอบกับในสถานีอนามัยสมันนั้นไม่มีเซรุ่มการรักษาพิษงู ชาวบ้านใกล้ไกล มารักษาเป็นจำนวนมาก เกิดการยอมรับในภูมิปัญญาจากสมุนไพร ในขนะที่โรงพยาบาลอำเภอกาบเชิง ได้ศึกษาเรื่องของสมุนไพรด้านพิษงู จึงได้เชิญหมอเอี้ยะเข้าร่วมรักษาผู้ป่วยพร้อมกับแพทย์แผนปัจจุบัน และโรงพยาบาลอำเภอปราสาท ให้เข้าร่วมรักษาเมื่อปี 2525เป็นต้นมา ในขณะที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ80พรรษา อำเภอพนมดงรักนั้น รู้กิตติศักดิ์และเป็นที่ยอมรับ จนกระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียนใบประกอบโรคศิลป์แพทย์แผนไทย ปัจจุบันเป็นหมออาสา รักษาผู้ป่วยทั้ง 3 โรงพยาบาลตามแนวชายแดนำไทย-กัมพูชา อีกด้วย
สำหรับวิธีการใช้ยา โดยนำรากโลดทะนงแดงมาฝนกับหมากแห้งใช้น้ำสะอาดเป็นกระสายยา ฝนจนกระทั้งน้ำเป็นสีขุ่น ใช้ประมาณ 1 แก้ว ให้ผู้ป่วยดื่มยา รอสัก 3-5 นาทีคนไข้จะอาเจียนออกมา 30 นาที หลังจากนั้นให้ดื่มยาซ้ำอีก ขณะเดียวกันทำยาปิดปากแผลที่งูกัด โดยมีมะนาวบีบมะนาวเป็นกระสายยา นำรากโลดทะนงแดงและหมากแห้ง มาฝน ปิดบริเวณปากแผลที่งูกัด ทำซ้ำๆไปเรื่อยๆทุก 2 ชั่วโมง ส่วนกรณีมีรอยไหม้ แผลเน่าให้ใช้ว่านอึ่งทุบปิดแผล เด็กต้องลดปริมาณตามขนาด การใช้ยาไม่มีคาถากำกับแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์ ได้นำว่านรากต้นโลดทะนงแดง ไปทดลองแล้ว สามารถยั้บยั้งและลดพิษงูเห่าลงได้ ซึ่งขณะนี้แพทย์แผนไทยได้ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
ที่มา : http://www.tnews.co.th/html/content/116084/
ภาพประกอบจาก https://www.facebook.com/pages
ผู้ชมหน้านี้ :
0 ความคิดเห็น
เรื่องเด็ด น่าคิด น่าชม ที่ทุกที่ ทุกเวลา เรื่องเด็ด น่าคิด น่าชม ที่ทุกที่ ทุกเวลา 108thinks.blogspot.com