5 คำพูด Bill Gates ที่จะบอกว่าความ “ล้มเหลว” นี่แหละคือครูที่ดีที่สุด!

Bill Gates คือคนที่รวยที่สุดในโลกในเวลานี้ ด้วยวัย 58 ปี เขามีทรัพย์สินสุทธิ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.56 ล้านล้านบาท เขาเป็นทั้งนักคิดค้นนวัติกรรม ชอบทำการกุศล และยังเป็นคนที่มีข้อคิดแรงบันดาลใจมาให้คนทั้งโลกอยู่เสมอๆ


ใน ปี 1975 Gates ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเพื่อร่วมก่อตั้ง Microsoft กับ Paul Allen เพื่อนของเขา และเพียงแค่ 12 ปีต่อมา เขาได้กลายเป็นเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุดในโลก และสร้างบริษัทซอฟแวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมาเป็นผลสำเร็จ

Gates คือตัวอย่างของคนที่สำเร็จได้ด้วยตนเอง จากความฝันที่ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แถมเขาก็เรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้ และเขาก็เป็นคนที่ใจบุญมากที่สุดคนหนึ่งของโลกเลยทีเดียว เพราะที่ผ่านมา เขาบริจาคเงินผ่านมูลนิธิ Bill and Melinda Gates Foundation ไปแล้วกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 896,000 ล้านบาท
วันนี้ เราขอนำคำพูดของ Bill Gates ที่จะตอกย้ำความสำเร็จ และความใจบุญของเขา และยังบอกอีกว่า การที่คุณจะประสบความสำเร็จ บางทีคุณอาจจะต้อง “ล้มเหลว” สักครั้งก่อนก็เป็นได้



 

1. “ความสำเร็จ เป็นครูที่ไม่ดี เพราะมันทำให้คนเก่งๆ หลายคน แพ้ไม่เป็น! ”

ไม่ ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน การอ่อนน้อมถ่อมตนคือสิ่งที่สำคัญ เพราะความสำเร็จก็เหมือนชีวิตคนเรานั่นแหละ ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนไปตลอด คุณสำเร็จในวันนี้ แต่ตื่นขึ้นมาในวันถัดไป ทุกอย่างอาจจะหายวับไปกับตาก็เป็นได้

ทาง ที่ดีที่สุดก็คือ ถึงแม้วันนี้ชีวิตคุณจะเปลี่ยน เพราะคุณประสบความสำเร็จ แต่อย่าให้มันเปลี่ยนแปลงตัวตนที่อยู่ภายในของคุณ คุณยังปฏิบัติต่อทุกคนรอบตัวเหมือนเช่นเดิม และรู้จักที่จะให้อะไรคืนสู่โลกที่คุณอาศัยอยู่บ้าง
การเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ เรียนรู้จากความล้มเหลว ไม่ใช่เรียนรู้จากความสำเร็จ เพราะฉะนั้น อย่าให้ความสำเร็จในวันนี้มาบังตาคุณ

 

2. “อย่าเปรียบเทียบตัวคุณเอง กับใครก็ตามในโลก เพราะถ้าคุณทำ คุณกำลังดูถูกตัวเองแล้วล่ะ”

คุณ มีความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เพราะฉะนั้น จำไว้ว่า ความสำเร็จมันขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะให้คำนิยามเป็นอย่างไร ใช้ชีวิตในทุกๆ วันของคุณอย่างมีค่าที่สุด อย่าเปรียบเทียบความสำเร็จของคุณ กับของคนอื่น
เรา ทุกคนเดินด้วยความเร็วที่ต่างกัน เดินกันคนละเส้นทาง และถึงแม้บางทีเราอาจจะหลงทาง ผิดพลาดไปบ้าง ก่อนที่เราจะสำเร็จ แต่นั่นคือส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ความสำเร็จไม่ใช่หรอ ดังที่ J.R.R. Tolkien เคยกล่าวไว้ว่า “Not all those who wander are lost. – ไม่ใช่ทุกคนที่เดินไปมา คือคนที่กำลังหลงทางทั้งหมดหรอกนะ”


 

3. “ลูกค้าที่โหดสุดๆ ของคุณ หรือไม่พอใจในการบริการของคุณที่สุด คือบทเรียนที่ดีที่สุดของคุณ”

 นี่ คือคำแนะนำที่ดีมากๆ สำหรับผู้ประกอบการว่า บทเรียนที่ดีที่สุดของคุณ คือลูกค้าที่ไม่พอใจในสินค้าหรือบริการของคุณ ยิ่งถ้าเจอลูกค้าหลายๆ คนบ่นเรื่องเดียวกัน นั่นหมายความว่า คุณรู้แล้วว่า คุณต้องแก้ปัญหาที่จุดไหน
สิ่ง นี้ใช้ได้กับ คนอื่นๆ เช่นกันในการใช้ชีวิต เราสามารถเรียนรู้ได้อย่างดี จากคนที่ไม่ชอบเรา หรือไม่พอใจเรา โดยเฉพาะคนใกล้ตัว เพราะมันทำให้เรารู้ว่า เราควรปรับปรุงตรงไหนหรือเปล่า ที่เขาไม่พอใจมันเพราะอะไร ซึ่งถึงแม้หลายๆ คนอาจจะบอกว่า เราไม่ควรสนใจสิ่งที่คนอื่นคิดมากเกินไป แต่นั่น คือความจริงในแง่ของคนที่เราไม่รู้จัก หรือ คนแปลกหน้า แต่ถ้ากับคนใกล้ตัวเรา เกิดไม่พอใจอะไรเราขึ้นมา นั่นคือเรื่องที่เราต้องคิด และดูว่า เราต้องปรับปรุงอะไรหรือไม่ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือ คุยกับเขา สื่อสารให้เข้าใจกัน และแก้ไขต่อไป

 

4. “ดีๆ กับพวกเนิร์ดๆ ไว้ก็ดี วันข้างหน้า คุณอาจจะต้องทำงานให้พวกเขาก็ได้”

ความนิยมของบุคคล บางทีมันก็เป็นอะไรที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอดเมื่อเวลาผ่านไป คนที่ดูขี้แพ้สุดๆ ตอนเรียนประถม พอขึ้นมอปลาย อาจจะกลายเป็นสาวฮอต ได้เป็นควีนงานพรอมของโรงเรียนก็เป็นได้
เหมือน กัน บางทีเราเห็นคนเนิร์ดในหมาวิทยาลัย ก็อาจจะไม่อยากยุ่งด้วย หรือคบด้วย เพราะดูไม่เจ๋ง แต่คิดดูดีๆ พวกนี้บางทีอาจจะออกจากมหาวิทยาลัย ไปสร้างชื่อ สร้างโลก และสุดท้ายคุณอาจจะต้องไปทำงานให้กับคนเหล่านั้นในชีวิตจริงก็เป็นได้
เพราะ ฉะนั้น การทำดีกับคนอื่นๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม คือสิ่งที่ดี เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้า คนคนนั้นจะกลายไปเป็นใคร เราอาจจะต้องร่วมงานกับเขา ขอความช่วยเหลือเขา หรือเกื้อกูลกันในอนาคต เอาเป็นว่า มนุษยสัมพันธ์ดีไว้ก่อน ดีที่สุด

 

5. “ชีวิตไม่เคยยุติธรรมหรอก…ชินซะเถอะ”

ชีวิต คนเราไม่เคยงดงาม และโรยด้วยกลีบกุหลายหรอกนะ บางคนอาจจะดูชีวิตง่าย บางคนอาจจะมีชีวิตที่ยาก ชีวิตคนเราไม่เคยที่จะยุติธรรมอยู่แล้วล่ะ สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือ “ยอมรับมัน และชินกับมันซะ” พยายามมองเรื่องดีๆ ในเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณ และจำไว้ว่า แสงสว่างจะไม่เกิดขึ้น ถ้ามันไม่มีความมืดมนเกิดขึ้นซะก่อน
เพียง คุณยอมรับมันได้ว่า ความเจ็บปวด ความล้มเหลว คือส่วนหนึ่งของชีวิต ที่เป็นธรรมชาติ คุณก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ และใช้มันนั่นแหละเป็นคุณครูที่จะเอาไว้สู้กับปัญหาในครั้งต่อไป
______________________________________________________________________
ที่มา : http://www.kiitdoo.com/
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น