ความรักเหมือนการติดยาเสพติด ??

นักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องความรัก
ได้เชิญคู่รักหนุ่มสาวที่กำลังหัวใจพองโตมาเข้าเครื่องแสกนสมอง fMRI
โดยแยกให้คู่รักเข้าไปในเครื่องแสกนสมองทีละคน

จากนั้นนักวิจัยก็จะฉายภาพต่างๆเช่นภาพวิวทิวทัศน์ ภาพการ์ตูน ภาพดาราดัง
รวมทั้งภาพของหวานใจก็จะถูกปะปนเข้าไปในนั้นด้วย
โดยสิ่งที่นักวิจัยสนใจก็คือ
แบบแผนการทำงานของสมอง (brain pattern) ที่ปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์

ผลการวิจัยระบุว่า เมื่อคู่รักเห็นภาพคนรักของตน
สมองของพวกเขาจะทำงานแตกต่างจากเวลาดูภาพอื่นๆอย่างชัดเจน
โดยสมองจะสั่งการให้ต่อมฮอร์โมน พิทูอิแทรี (pituitary gland)
หลั่งฮอร์โมนออกมาสองตัวคือ เทสโทสเตโรน (testosterone) สำหรับผู้ชาย
และ เอสโตรเจน (estrogen) สำหรับผู้หญิง
ซึ่งฮอร์โมนนั้นจะไปกระตุ้นสารเคมีในสมองทั้งหมดสี่ตัวด้วยกัน
สารเคมีที่เราควรรู้จักมีอยู่สองตัวคือ ฟีโรโมน (pheromone)
ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นร่างกายให้พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์
และ โดพามีน (dopamine)
ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นความอยากและทำให้เกิดความสุขในเวลาที่ได้อยู่ใกล้คนรัก
โดยแม้ว่าจะเห็นแค่รูปภาพของคนรัก โดพามีนก็ยังหลั่งออกมาอยู่ดี
เพราะสมองของเราไม่เก่งกาจในการแยกแยะระหว่างความจริงกับสิ่งลวงตา
จุดที่น่าสนใจที่สุดก็คือ
เจ้าสารโดพามีนนี่เองที่จะหลั่งออกมาอย่างมากมายเมื่อคนเราเสพยาเสพติด
นอกจากนั้น นักวิจัยยังพบว่า สมองของคนที่กำลังมีความรักอันชื่นฉ่ำ
ดันมีลักษณะเหมือนกับผู้ป่วยที่กำลังเสพติดโคเคนไม่มีผิด !
สารเคมีที่อยู่ในโคเคน
จะสร้างปฏิกิริยาที่ทำให้สมองของเราตอบสนองต่อโดพามีนได้อย่างดีขึ้นถึง 3 เท่า
ซึ่งก็หมายความว่า ตอนที่กำลังเสพโคเคนอยู่ เราจะมีความสุขได้ง่ายขึ้นถึง 3 เท่า!

จึงเป็นคำอธิบายว่าทำไมคนที่กำลังเสพยาถึงหัวเราะแทบตายไปกับมุขตลกฝืดๆ
ขำกลิ้งเมื่อเห็นจิ้งจกเดินเตาะแตะอยู่บนเพดาน ฮาก๊ากไปกับเรื่องเล่าแสนงี่เง่า
และยิ้มหวานยิ่งกว่านางสาวไทยอยู่ตลอดเวลา!
(แต่คนที่เสพแล้วเพี้ยน คือคนที่เสพตอนกำลังเครียดจัด
สมองจึงสร้างภาพหลอนขึ้นมาแทนจินตนาการอันแสนสุข)
โคเคนและความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู
เพราะมันทำให้สมองของเราตอบสนองต่อสารโดพามีนได้ดีขึ้น
เราจึงมีความสุขได้ง่ายขึ้นไปกับทุกๆอย่าง

ตอนที่เรากำลังมีความรัก เพลงก็ฟังดูไพเราะขึ้น เสียงนกร้องก็ก้องกังวานขึ้น
ดอกไม้ก็สวยขึ้น น้ำหอมก็หอมขึ้น อาหารก็อร่อยขึ้น เตียงนอนก็นุ่มขึ้น
และหน้าของคนที่ไม่น่ารัก ก็แลดูน่ารักขึ้นมาได้!
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อสมองกำลังเปิดรับสารโดพามีน
ศูนย์ควบคุมความเจ็บปวดในสมองด้านข้าง (parietal lobe)
และส่วนสมองส่วนลิมบิก (limbic system) ก็จะทำงานน้อยลงด้วย
ซึ่งก็หมายว่า เวลาเรากำลังมีความรัก (หรือกำลังติดยา!)
ความเจ็บปวดทางกายจะบรรเทาเบาบางลงไปได้มากโข

หลายคนจึงคิดถูกแล้วที่พาแฟนไปนั่งจับมือตอนฉีดยาหรือก่อนเข้าห้องผ่าตัด
นอกจากนั้น คุณจะสามารถเดินเท้าเปล่า ฝ่าแดด ฝ่าลม ฝ่าฝน
และฝ่าคนที่คอยขัดขวางไปหาคู่รักของคุณ (หรือไปหาสิ่งที่เสพติด) ได้
เพราะเวลาที่คุณกำลังมีความรัก คุณจะมีความ “ถึก” เป็นพิเศษ!
อย่างไรก็ตาม อย่างที่ทุกคนทราบว่ายาเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี
ความรักที่ขาดสติก็ไม่ดีเช่นกัน
คนที่กำลังมีความรักจะรู้สึกกระวนกระวายเมื่อไม่ได้เจอคนรักนานๆ
หวงแหนไม่อยากให้คนอื่นมาแย่งคนรักไป
ต้องการอยู่ใกล้ๆคนรักเสมอ ขาดกันเหมือนจะขาดใจ ฯลฯ
ไม่เพียงเท่านั้น คนอกหักก็มีอาการเหมือนคนที่เพิ่งหักดิบเลิกยาใหม่ๆไม่มีผิด
ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บหน้าอก ลงแดง ร้องไห้ ฟูมฟาย ทานข้าวไม่ลง
ร่างกายทรุดโทรม รู้สึกระทมทุกข์หาความสุขไม่ได้
หรือบางรายที่อาการหนักก็จะรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกแล้ว
ความรักที่ขาดสติไม่ได้เป็นอันตรายแค่กับเฉพาะผู้ที่กำลังมีความรัก
แต่เป็นภัยอย่างมหันต์ต่อผู้อื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นสงครามเมืองทรอยตั้งแต่สมัยโบราณ
หรือข่าวฆาตกรรมหน้าหนึ่งซึ่งมีให้เห็นบ่อยจนนับครั้งไม่ถ้วน
เหล่านี้คงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความรักที่ไร้สติปัญญา
สามารถทำให้คนฆ่ากันได้อย่างเลือดเย็นที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้กำลังจะมาสนับสนุนให้ทุกคนอยู่อย่างไร้รัก
แต่ผมกำลังจะมาสนับสนุนให้เรามีสติในการรัก รักอย่างรู้เนื้อรู้ตัว
ไม่ใช่รักอย่างตามืดตามัว และที่สำคัญคือต้องรักอย่างมีปัญญา
การรักอย่างมีปัญญา ไม่ใช่รักเพราะต้องการจะได้ความสุขจากเขา
แต่รักเพราะความรักในใจของคุณมันมีมากเสียจนล้นออกไปให้เขาได้
เป็นรักเพื่อมอบความรัก ไม่ใช่รักเพื่อขอความรัก
หลายครั้งคนเราชอบหลอกตัวเอง
บอกว่าเรารักเขาเหลือเกินจึงสามารถให้เขาได้มากมาย
แต่แท้จริงเราให้สิ่งต่างๆไป เพียงเพื่อหวังจะได้ความรักเป็นการตอบแทน
เราทุ่มให้ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะแท้จริงใจของเราเองกลวงโบ๋
เราจึงอยากให้คนอื่นเติมความรักให้กับใจที่ว่างเปล่าของเรา
โดยเรายอมแม้ต้องเอาตัวเข้าแลก
เราชอบเอาความสุขไปฝากไว้กับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นโคเคนหรือคนรัก
และเมื่อความสุขนั้นจากเราไป เราจึงร้องไห้จะเป็นจะตาย
เพราะแหล่งความสุขของเราได้หายไปแล้ว แต่ถ้าแหล่งความสุขอยู่ในใจเราเอง
เราจะไม่มีวันเสียใจจนดับดิ้น อกหักแทบสิ้น หรือเจ็บปวดจนทำร้ายคนอื่น
เพราะเราไม่ได้เอาหัวใจของตัวเอง ไปฝากไว้ให้ใครดูแล
เราต้องมองให้ลึกและนึกให้ดีว่า เรารักเพราะอยากให้ความรัก
หรือรักเพราะอยากมีคนมารัก เพราะถ้าเป็นรักแบบที่สองแล้วล่ะก็
โลกที่เป็นสีชมพู ไม่นานก็จะแปรเปลี่ยนเป็นสีดำอำมหิต… อย่างแน่นอน!
______________________________________________________________________
ที่มา : http://www.dhamdee.com/?p=3768  
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น