งานวิจัยค้นพบว่า วัยรุ่นกว่าครึ่งรู้สึกไม่อยากดื่มน้ำอัดลม หากได้เห็นฉลากเตือนว่า จะต้องออกกำลังกายด้วยการวิ่ง 1 ชั่วโมงต่อการดื่มน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง
งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร?”American Journal of Public Health”?ระบุว่า การติดฉลากว่า ผู้บริโภคต้องออกกำลังกายเท่าไหร่ จึงจะสามารถขจัดแคลอรีจากอาหารขยะได้หมด จะช่วยลดความน่ารับประทานลง
คณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ ติดป้ายเตือนด้านนอกร้านค้า 3 แบบ เพื่อทดลองว่าป้ายเตือนแบบไหนจะทำให้วัยรุ่นขยาดการรับประทานอาหารขยะมากที่สุด แม้ป้ายทั้งสามจะระบุถึงจำนวนพลังงาน 250 แคลอรีเท่ากันหมดก็ตาม
ผลการศึกษาพบว่า ผลลัพธ์จากการระบุข้อมูลแคลอรีอย่างละเอียด ช่วยลดยอดขายอาหารขยะได้ 40% โดยเฉพาะป้ายเตือนว่า จำเป็นต้องออกกำลังกายในปริมาณเท่าไหร่หลังบริโภคประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถลดยอดขายในกลุ่มวัยรุ่นได้ถึงครึ่งหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับคำเตือนชนิดอื่นๆ
ดร.ซาราห์ เบลช ผู้นำการวิจัย?กล่าวว่า ผู้คนทั่วไปมักประเมินจำนวนแคลอรีที่ได้รับจากอาหารขยะต่ำไป แต่การเปรียบเทียบปริมานแคลอรีจากอาหารเป็นการออกกำลังกาย จะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจง่ายขึ้น เช่น เปรียบจำนวนแคลอรีจากน้ำหวานเท่ากับการวิ่งกี่นาที
เธอชี้แจงว่า เนื่องจากปัญหาสุขภาพโดยมากมีต้นเหตุมาจากอาหารขยะ มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องหายุทธศาสตร์ในการเตือนผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพที่สุด เช่น ติดฉลากแบบใหม่บนสินค้า หรือบนเมนูร้านฟาสต์ฟู้ด
______________________________________________________________________
ที่มา : teen.mthai
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
0 ความคิดเห็น
เรื่องเด็ด น่าคิด น่าชม ที่ทุกที่ ทุกเวลา เรื่องเด็ด น่าคิด น่าชม ที่ทุกที่ ทุกเวลา 108thinks.blogspot.com