สุดยอดยาลดอ้วน ป่องเป็นลูกโป่งในท้องช่วยอิ่ม (ชมคลิป)

การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันมีผลเสียทั้งต่อสุขภาพและบุคลิกภาพ แต่ก็ยังปรับปรุงพฤติกรรมการกินของตัวเองไม่ได้สักที โดยเฉพาะเรื่องปริมาณอาหารที่กิน กินทีไรก็ลืมตัวซัดโฮกจานใหญ่ทุกที บางทีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี่อาจจะช่วยคุณได้..

     
 เว็บไซต์มิเรอร์ หยิบยกวิธีใหม่ในการลดน้ำหนักนี้ขึ้นมาพูดถึงเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2014 ที่ผ่านมา มันคือแคปซูลลูกโป่งภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า Obalon ที่กินเข้าไปแล้วบอลลูนจะไปพองในกระเพาะ ช่วยหลอกให้รู้สึกอิ่ม จึงช่วยควบคุมปริมาณในการกินอาหารได้นั่นเอง



          โดยตัวเม็ดยาแคปซูลจะเชื่อมกับสายยางขนาดจิ๋วเมื่อกลืนลงไปในกระเพาะอาหาร

ตัวแคปซูลจะหลุดออกไป แล้วลูกโป่งจะพองออกจนมีขนาดเท่าลูกแอปเปิล ด้วยการปรับแรงดันจากสายยางที่เชื่อมต่ออยู่ด้านนอก เมื่อพองเต็มที่สายยางก็จะหลุดออก แล้วดึงกลับออกมาทางปาก ส่วนลูกโป่งนั้นก็จะลอยอยู่ที่ตอนบนของกระเพาะอาหาร หลอกให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม ส่วนการนำลูกโป่งออกนั้น มันจะถูกทำให้แฟบก่อนที่จะนำออกมาโดยการสอดเข้าทางปาก ผ่านทางเดินอาหารเข้าไปเกี่ยวออกมา โดยกระบวนการทั้งหมดนี้นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาเลย
จึงนับว่าเป็นวิธีที่สะดวกมาก เห็นผลชัดเจน และผลที่ได้ก็อยู่ในข่ายน่าพึงพอใจ จากการทดลองกับผู้ป่วยจำนวนหนึ่ง พบว่ามันช่วยให้ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 7.7 กิโลกรัม ภายใน 12 สัปดาห์ ส่วนผลข้างเคียงมีบ้างเล็กน้อย 7% ของผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้ อาหารที่กินเข้าไปไหลย้อน และอาการตะคริวในคอ ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้น และหายไปใน 1-2 วัน


          ในปัจจุบัน มีการให้บริการลดน้ำหนักด้วยลูกโป่ง Obalon แล้ว ตามโรงพยาบาล และคลิกนิกบางแห่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเป็นคอร์สแนะนำสำหรับที่มีดัชนีมวลกาย หรือ BMI มากกว่า 27 และประสบปัญหาในการลดน้ำหนัก โดยหนึ่งคอร์สอยู่ที่ราคา 2,995 ปอนด์ (ประมาณ 160,000 บาท) โดยจะได้รับลูกโป่งพองในท้องแบบนี้ 2 ใบ
 

       นับว่านี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกล่าสุด สำหรับการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณอาหารที่กินต่ละมื้อให้น้อยลง แต่อย่างไรก็ดี ผลที่จะเป็นอยู่ได้นานหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเอง ว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน และไลฟ์สไตล์ของตนได้ถาวรหรือเปล่า ไม่เช่นนั้้นก็คงจะผอมแค่ตอนลูกโป่งพอง พอนำลูกโป่งออกก็คงกลับมาอ้วนอีกแน่ ๆ แบบนี้ต่อให้ใลูกโป่งเป็นสิบใบก็คงช่วยอะไรไม่ได้นะจ๊ะ
______________________________________________________________________
ที่มา : kapook.con ,  
ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น