10 อันดับ ผลไม้ยอดนิยมของคนญี่ปุ่น

    คนญี่ปุ่น สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ของฤดูกาลต่างๆ ผ่านดอกไม้ที่เบ่งบาน แลผลไม้ที่ออกผล ในแต่ละช่วงเวลามาตั้งแต่สมัยโบราณ และเนื่องจากญี่ปุ่นมีถึง 4 ฤดู จึงทำให้พืชผลต่างๆ มีความหลากหลาย และทุกๆปีดอกไม้และผลไม้ จะออกดอกออกผล ในช่วงฤดูกาลของมันเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง การเพลิดเพลินกับพันธุ์ไม้ และผลไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูนั้น ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่น และตลอดทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น 


10. Tochiotome (とちおとめ)


อันดับ 10 Tochiotome (とちおとめ) สตรอเบอร์รี่จากจังหวัด Tochigi จังหวัดที่ปลูกสตรอเบอร์รี่มากที่สุดในญี่ปุ่น จุดเด่นของ Tochiotome คือ เป็นสตรอเบอร์รี่ผลใหญ่ที่มีความหวานกำลังดี วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนพฤษภาคม ของทุกปี

9. Melon (メロン)

อันดับ 9 Melon (メロン) จากจังหวัด Ibaraki จังหวัดที่ปลูกเมล่อนมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนประมาณ 23% ของผลผลิตของเมล่อนทั้งประเทศ พันธุ์ที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ Andesu Melon (アンデスメロン) และ Quincy Melon (クインシーメロン) เมล่อนของจังหวัด Ibaraki มีจุดเด่นอยู่ที่ความหวานและความหอม เคล็ดลับในการรับประทานเมล่อนให้อร่อยก็คือ ให้เก็บเมล่อนไว้ในอุณหภูมิห้องโดยที่ไม่ต้องแช่เย็นก่อน เมื่อต้องการจะรับประทานแล้วจึงค่อยเอาไปแช่ตู้เย็นก่อนรับประทานประมาณ 2-3 ชั่วโมง วางจำหน่ายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฏาคม

8. Apple (りんご)

อันดับ 8 Apple (りんご) จากจังหวัด Nagano จังหวัดที่ผลิตแอปเปิ้ลได้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น (อันดับ 1 คือจังหวัด Aomori) สำหรับแอปเปิ้ลพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัด Nagano คือ Tsugaru (つがる) และ Fuji (ふじ) คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานแอปเปิ้ลกันมากเนื่องจากเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ลดความดัน และยังช่วยบำรุงหัวใจด้วย แอปเปิ้ลของจังหวัด Nagano นั้นจะมีช่วงการเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงเดือนมกราคม

7. Momo (もも)

อันดับ 7 Momo (もも) ลูกพีชจากจังหวัด Fukushima จังหวัดซึ่งผลิตลูกพีชได้เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ลูกพีชเป็นผลไม้ในฤดูร้อน คือช่วงเดือนกรกฏาคมถึงเดือนตุลาคม นิยมทำเป็นน้ำผลไม้แช่เย็นดื่ม หรือนำไปปรุงเป็นขนมหวานประจำฤดูร้อนต่าง ๆ มากมาย

6. Yamagata Sakuranbo

อันดับ 6 Yamagata Sakuranbo (山形のさくらんぼ) เชอร์รี่จากจังหวัด Yamagata จังหวัดซึ่งผลิตเชอร์รี่ได้มากที่สุดของญี่ปุ่น ลูกเชอร์รี่นั้นถ้าเก็บจากต้นแล้วจะต้องรีบรับประทานภาย 2-3 วัน เพราะถ้าเก็บไว้นานเกินไปจะทำให้ความหวานลดน้อยลง (ถ้ารับประทานวันที่เก็บมาจากต้นได้ก็นับว่าดีที่สุด) เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีหน้าตาน่ารัก สีสันสดใส และหารับประทานได้แค่ในช่วงสั้น ๆ คือแค่ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฏาคม เท่านั้นเชอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่เป็นที่นิยมสำหรับคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

5. Yamanashi Sakuranbo

อันดับ 5 Yamanashi Sakuranbo (山梨のさくらんぼ) เชอร์รี่จากจังหวัด Yamanashi จังหวัดที่ผลิตเชอร์รี่ได้เป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ จุดเด่นของเชอร์รี่ของจังหวัด Yamanashi นั้นอยู่ที่ผลที่มีความแวววาว และความชุ่มฉ่ำของเนื้อเชอร์รี่ และเนื่องจากเชอร์รี่เป็นผลไม้ที่ต้องรีบรับประทานเมื่อเก็บมาจากต้น และด้วยระยะทางของจังหวัด Yamanashi ซึ่งอยู่ใกล้เมืองใหญ่อย่าง Tokyo มากกว่า ทำให้เชอร์รี่จากจังหวัด Yamanashi ส่งถึงมือผู้บริโภคได้ในขณะที่ยังสดใหม่อยู่

4. Kanjuku Mango

อันดับ 4 Kanjuku Mango (完熟マンゴー) มะม่วงสุก เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด Miyazaki มะม่วง ที่มีคุณภาพนั้นจะต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 350 กรัม และมีความหวานมากกว่า 15 (ระดับการวัดความหวาน) และเนื่องจากมะม่วงของญี่ปุ่นนั้นมีเปลือกสีแดง ดังนั้นถ้ามะม่วงผ่านเกณฑ์ดังกล่าว จะเรียกว่า “Taiyou No Tamago : 太陽の卵” คำแปลก็คือ “ไข่ของพระอาทิตย์” เป็นผลไม้ที่มีราคาแพง นิยมทานสุก และนิยมนำไปเป็นส่วนผสมของเค้กและเยลลี่ด้วย วางจำหน่ายช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฏาคม

3. Momo (もも)

3 Momo (もも) ลูกพีชจากจังหวัด Yamanashi จังหวัดซึ่งผลิตลูกพีชได้มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของลูกพีชของจังหวัด Yamanashi อยู่ที่ความชุ่มฉ่ำ หอม หวาน และความนุ่มละมุนของผลลูกพีช และลูกพีชของ Yamanashi จะมีฤดูเก็บเกี่ยวที่สั้นมากคือช่วงเดือนกรกฏาคมและสิงหาคมเท่านั้น

2. Ehime Mikan (愛媛みかん)

อันดับ 2 Ehime Mikan (愛媛みかん) ส้มของจังหวัด Ehime เป็นส้มที่มีความหวาน-ความเปรี้ยวที่ลงตัว และมีน้ำส้มที่ชุ่มฉ่ำมาก และมีวางจำหน่ายเกือบจะตลอดปี

1. Budou (ぶどう)

อันดับ 1 Budou (ぶどう) องุ่นจากจังหวัด Yamanashi จังหวัดซึ่งล้อมรอบไปด้วยภูเขาทั้ง 4 ทิศ ทำให้เป็นพื้นที่ได้รับแสงแดดยาวนาน และมีปริมาณน้ำฝนน้อย เหมาะกับการปลูกผลไม้อย่างเช่น “องุ่น” เป็นอย่างมาก องุ่นของจังหวัด Yamanashi มีผลใหญ่ เปลือกบาง น้ำชุ่มฉ่ำ และมีรสชาติหวาน วางจำหน่ายในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนตุลาคม
ที่มา : http://www.marumura.com/home/

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น